กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย
บมจ. แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHBANK) เตรียมขายหุ้น IPO ประเดิมเข้าตลาด SET เป็นรายแรกปีนี้ และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย ได้ยื่นขอปรับฐานะเป็นธนาคารพาณิชย์แล้ว
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาอนุญาตจาก ก.ล.ต.ให้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,443.10 ล้านหุ้น (คิดเป็นร้อยละ 12.7 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO) ประมาณปลายเดือนเมษายน 2554 และคาดว่าหุ้นของบริษัทจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2554 นี้
อนึ่ง บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทโฮลดิ้ง และเป็นบริษัทแม่ของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และเมื่อบริษัทเข้า จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะใช้อักษรย่อว่า LHBANK
นางศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังการเพิ่มทุนจาก IPO จะทำให้บริษัทมีทุนที่เรียก ชำระแล้วเพิ่มขึ้นจาก 9,928 ล้านบาท เป็น 11,371 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ไปลงทุนในธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และในส่วนของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย ปัจจุบันมีเงินกองทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท และหลังจากการ IPO ธนาคารจะมีเงินกองทุนมากกว่า 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคาร มีความพร้อมที่จะยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ และธนาคารได้ยื่นขอหนังสืออนุญาตต่อธนาคาร แห่งประเทศไทยแล้ว และคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 2554 การเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ จะทำให้ธนาคารสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการให้บริการธุรกรรมการเงินรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย มีฐานเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง จะเห็นได้ว่าในปี 2553 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ร้อยละ 16.85 และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมดต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ร้อยละ 17.64 ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ที่ธปท. กำหนดไว้ที่ร้อยละ 4.25 และร้อยละ 8.50 ตามลำดับ ซึ่งหากรวมเงินจากการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนเมื่อต้นปี 2554 และเงินจากการเพิ่มทุน IPO ครั้งนี้ ฐานเงินทุนของธนาคารจะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและสามารถรองรับการขยายตัวของธนาคารได้เป็นไปตามแผนธุรกิจที่กำหนดไว้
สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปีของธนาคารเป็นดังนี้ ยอดเงินฝาก ยอดสินเชื่อ และสินทรัพย์รวมจะมีอัตราการเติบโตต่อปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และกำไรสุทธิจะมีอัตราการเติบโตต่อปีไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ — ปริมณฑลและต่างจังหวัด ให้มีจำนวนทั้งสิ้น 75 สาขาภายใน 3 ปี ซึ่งการมีสาขาและเครือข่ายจำนวนมากขึ้นจะทำให้ธนาคารสามารถขยายฐานเงินฝากได้มากขึ้นและบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ธนาคารได้ถือหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) 100% และจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งทำให้ธนาคารมีบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
ในภาพรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป มีสินทรัพย์รวม 62,312 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 25 และผลประกอบการในปี 2553 มีรายได้รวม 2,424 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 408 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของรายได้รวมร้อยละ 14 และอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการในปี 2552
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ได้แก่ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถือหุ้นร้อยละ 41 บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์ ถือหุ้นร้อยละ 26 และคุณเพียงใจ หาญพาณิชย์ ถือหุ้นร้อยละ 20 และบริษัท ถือหุ้นร้อยละ 100 ใน ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ถือหุ้นร้อยละ 100 ใน บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
ส่วนโฆษณาและประชาสัมพันธ์ โทร. 02 359 0283
ส่วนโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สำนักกรรมการผู้จัดการ
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
โทร.02-359-0000 ต่อ 2015
แฟกซ์.02-677-7223
E-mail: Paweennasornj@lhbank.co.th