กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--กบข.
กบข.หนุนเพิ่มเพดานการลงทุนต่างประเทศ ลดผลกระทบบาทแข็ง เผยเตรียมหารือคลังแก้กฎกระทรวงลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 25 หวังกระจายความเสี่ยงการลงทุน ดันผลตอบแทนการลงทุนพุ่ง
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงทิศทางและนโยบายการลงทุนของ กบข. ในช่วงครึ่งปีหลังว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายที่จะสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น และยังไปสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของ กบข. ที่เน้นเรื่องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ กบข. จะเร่งเสนอเรื่องถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอขยายสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 25 ของสินทรัพย์สุทธิ 353,024 ล้านบาท หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่ลงทุนทั้งสิ้นกว่า 88,000 ล้านบาท
ในส่วนของการลงทุนต่างประเทศของ กบข. ถือว่ามีความพร้อมค่อนข้างมาก เพราะมีการศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์รอบด้าน และมีการเตรียมพร้อมของเจ้าหน้าที่และระบบงานมาระยะหนึ่ง กบข. จึงได้ตัดสินใจเพิ่มโอกาสการลงทุน ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กบข. ได้นำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศแล้วคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.64 ของสินทรัพย์สุทธิ และคาดว่าจะนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศอีกจนเต็มเพดานตามที่กฎหมายกำหนด โดยในครึ่งปีแรกของปีนี้ ผลตอบแทนการลงทุนในตราสารต่างประเทศให้ผลตอบแทนร้อยละ 2.06 โดยแบ่งเป็นลงทุนในตราสารหนี้ร้อยละ 5 และตราสารทุนร้อยละ 7.6
เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. กล่าวอีกว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทแข็งค่าไปแล้วกว่าร้อยละ 20 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ความสามารถการแข่งขันลดลงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยสาเหตุที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งมาจากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่เกินดุล และสุดท้ายคือ กระแสเงินไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ดังนั้นการผ่อนคลายให้นักลงทุนสถาบันนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ เชื่อว่าจะช่วยลดผลกระทบการแข็งค่าของเงินบาทได้บางส่วน
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข.
โทร. 1179 กด 6 member@gpf.or.th /
www.gpf.or.th