กรุงเทพฯ--12 ก.พ.--เซ็นทรัลพัฒนา
- ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์รายแรกในไทยที่นำงานศิลปะเข้ามาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการดึงดูดความสนใจและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- สะท้อนบทบาทของศูนย์การค้าในการทำหน้าที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามและสร้างสุนทรียภาพในการใช้ชีวิต
- สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ในมหานครใหญ่ทั่วโลก
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกชั้นนำของไทย และผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าและเซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศเปิดตัวโครงการ The Sculptures at CentralWorld มุ่งผลักดันให้เซ็นทรัลเวิลด์เป็นแหล่งรวมงานประติมากรรมที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชั้นนำจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ขณะเดียวกันช่วยยกระดับกรุงเทพฯ ให้เทียบเท่ามหานครใหญ่ในประเทศต่างๆ ที่จัดสรรพื้นที่ใจกลางเมืองสำหรับงานประติมากรรมและงานศิลปะต่างๆ
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เซ็นทรัลเวิลด์นับเป็นศูนย์การค้าแรกในไทยที่ได้นำงานศิลปะเข้ามาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการดึงดูดความสนใจและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ขณะเดียวกันโครงการ The Sculptures at CentralWorld ยังช่วยตอกย้ำจุดแข็งของเซ็นทรัลเวิลด์ในฐานะช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นำเสนอสินค้า บริการและกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายและครบวงจร ซึ่งสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีความต้องการในการใช้ชีวิตที่หลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มให้ความสนใจในงานศิลปะมากขึ้น”
“การนำงานศิลปะเข้ามาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของศูนย์การค้าถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ในมหานครหลักๆ ทั่วโลก อีกทั้งยังสะท้อนถึงบทบาทของศูนย์การค้าที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการพักผ่อนหย่อนใจในการใช้ชีวิต ซึ่งไม่จำกัดอยู่เพียงเพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ แต่ยังมุ่งนำเสนองานศิลปะเพื่อจรรโลงใจ ตัวอย่างของศูนย์การค้าที่นำเสนอเทรนด์ ดังกล่าวได้แก่ Bull Ring ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ศูนย์การค้า Roppongi Hills ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และ ศูนย์การค้า VivoCity ที่สิงค์โปร์” นางสาววัลยา กล่าวเสริม
โครงการ The Sculptures at CentralWorld ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรมและสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดขึ้นเพื่อเป็นการร่วมฉลองเนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ร่วมฉลองเนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยได้เชิญชวนให้สถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ในประเทศไทยได้มีส่วนร่วมโดยคัดเลือกงานประติมากรรมที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชั้นนำของประเทศตนภายใต้คอนเซ็ปต์ “People (Their Lifestyles) and Animals of the World” มาจัดแสดงเป็นการถาวรบนพื้นที่ 15,000 ตารางเมตรของลานเซ็นทรัลเวิลด์ สแควร์ บริเวณหัวมุมสี่แยกราชประสงค์และหน้าอาคารดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์
โดยสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นได้แจ้งความจำนงที่จะมอบงานประติมากรรม ’ปลาโลมา’ ซึ่งออกแบบโดยศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่น มร. เรียวเฮ มิยาตะ นอกจากนี้ยังมีสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ อาทิ อังกฤษ อินเดีย ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐประชาชนจีน อเมริกา และอิตาลี ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
“คาดว่าโครงการ The Sculpture at CentralWorld จะสามารถเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการภายใน ปลายปีนี้” นางสาววัลยากล่าว
เซ็นทรัลเวิลด์ได้ลงทุนกว่า 200 ล้านสำหรับการตกแต่งพื้นที่บริเวณรอบเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งรวมถึงลานเซ็นทรัลเวิลด์ สแควร์ ให้เป็นพื้นที่สาธารณะที่มีภูมิทัศน์ร่มรื่นและงดงามใจกลางกรุงเทพฯ ลานเซ็นทรัลเวิลด์ สแควร์ นับเป็นลานกิจกรรมอเนกประสงค์กลางแจ้งขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ลานดังกล่าวเหมาะสำหรับการจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ เช่น งานแสดงแฟชั่นชั้นนำของไทยแอล แฟชั่น วีค การแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ โดยมีน้ำพุเต้นรำกว่า 400 จุด สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้มากถึง 100,000 คนต่อวัน
“หลังจากที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้เปิดให้บริการไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา ปัจจุบันในส่วนช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ได้เปิดครบสมบูรณ์แล้วกว่า 90% โดยโซนช้อปปิ้งต่างๆ ได้เปิดครบทั้ง 6 โซน รวมถึงร้านค้าขนาดใหญ่ที่เป็นแม็กเน็ตสำคัญๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็น เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ โรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ซิเนม่า ร้านค้าแบรนด์นำทั้งของไทยและต่างประเทศกว่า 400 ร้าน“นางสาววัลยากล่าวและเพิ่มเติมว่า ส่วนโซนร้านอาหาร “เฮฟเว่นออนเซเว่น” จะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสสองของปีนี้
ในส่วนของศูนย์การประชุม (convention centre) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในกลางปีนี้ บนพื้นที่ 17,000 ตารางเมตร ถือเป็นหนึ่งในศูนย์ประชุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียปลูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไร้เสา สำหรับในส่วนโรงแรมระดับห้าดาว จำนวน 500 ห้องภายใต้ชื่อ “เซ็นทรัลเวิลด์ โฮเต็ล” จะเปิดให้บริการภายในต้นปี 2551
“เมื่อโครงการทั้งหมดเปิดครบสมบูรณ์แล้ว เซ็นทรัลเวิลด์จะกลายเป็นมิกซ์ยูส (mix-used) คอมเพล็กซ์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีความครบวงจรมากที่สุด สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในส่วนที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป ลูกค้าประเภทบริษัท องค์กรต่างๆ ทั้งในส่วนที่พัก การจัดประชุม สัมมนา” นางสาววัลยา กล่าว
ปัจจุบันมีลูกค้ามาใช้บริการที่เซ็นทรัลเวิลด์ประมาณ 100,000 คนต่อวัน โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 30,000 คน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ปุณยวีร์ ฉัตรวิชัยกุล โทร. 02-264-5555 ต่อ 4110 / 081-849-1941 โทรสาร 02-264-5575
E-Mail: pr.ho@centralplaza.co.th Website : www.centralplaza.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net