กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 4.10 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,433.00 USDต่อออนซ์ จากความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศในตะวันออกกลางและอาฟริกาใต้ และการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบทำให้มีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และมีความต้องการถือทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 4.10 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,433.00 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,429.10 — 1,440.30 USDต่อออนซ์ จากความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ และการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบทำให้มีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และมีความต้องการถือทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ราคาทองคำมีแนวโน้มจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,440 — 1,444 USDต่อออนซ์
- ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 0.53 เซนต์ ปิดที่ 108.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองท่ามกลางเหตุการณ์สู้รบในลิเบีย และเหตุการณ์ไม่สงบในเยเมน ( + )
- นายเบน เบอร์นันเก้ กล่าวถึง การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ว่า ถ้ามีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้น ทางธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินการในการรักษาเสถียรภาพของราคา หลังจากคำกล่าวของเขาทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น นอกจากนี้มีการคาดการณ์ว่า มาตรการ QE2 ที่จะจบลงในเดือนมิ.ย.นี้จะไม่มี QE3 ( - )
- ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวถึง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่คาดหมายว่าจะปรับขึ้นในวันที่ 7 เม.ย. จะไม่เหมาะสมกับทุกประเทศในเขตยูโรโซน โดยเฉพาะกับประเทศที่ประสบปัญหาวิกฤตหนี้ภาครัฐ นักวิเคราะห์คาดว่า ถ้า ธนาคารกลางยุโรปยังคงดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวด จะทำให้ปัญหาวิกฤตหนี้ของยุโรปกลับมามีปัญหามากขึ้นอีก นักลงทุนต้องติดตามว่า ในที่สุดแล้วธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ถ้าหากไม่ปรับขึ้นจะทำให้ค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่าและกดดันราคาทองได้ ( - )
- SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจำนวน 1,211.23 ตัน
Technical Analysis:
คาดว่าในระยะสั้นราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ side way up ก่อนที่จะปรับขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 1,447 และจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,467 สำหรับแนวรับประเมินไว้ที่ 1,424 และ 1,415