กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--ธนาคารธนชาต
ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ให้พักชำระหนี้เช่าซื้อรถยนต์ได้สูงสุด 90 วัน พร้อมขยายระยะเวลาผ่อนชำระออกไปได้อีกสูงสุด 12 เดือน ส่วนบัตรเครดิต บัตรสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนผันค่างวด ค่าธรรมเนียมและยอดดอกเบี้ยจ่ายให้ ด้านสินเชื่อเคหะไม่ต้องชำระคืนเงินต้นได้นานสูงสุด 12 เดือน คาดมาตรการนี้สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ และได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ธนาคารฯ ตระหนักถึงความเดือนร้อนของลูกค้าซึ่งประสบกับภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและมีส่วนในการเตรียมความพร้อมเพื่อการฟื้นฟูภายหลังน้ำลด
โดยลูกค้าที่ใช้บริการ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ รถยนต์มือสอง และ สินเชื่อธนชาตรถแลกเงิน สามารถขอพักการชำระหนี้ได้สูงสุด 90 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ออกไปได้อีกสูงสุด 12 เดือน โดยใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตามสัญญาเดิม ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่า 1.88% ต่อปี รวมถึงจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมปรับหนี้คงค้าง และค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือทวงถาม
ส่วนผลิตภัณฑ์ บัตรเครดิต บัตรสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อส่วนบุคคล เมื่อลูกค้าทำการแจ้งความจำนงค์ขอผ่อนผันสินเชื่อ ธนาคารจะผ่อนผันค่างวดหรือค่าธรรมเนียมและยอดดอกเบี้ยจ่าย ณ งวดนั้นๆ โดยจะนำไปสะสมเป็นยอดจ่ายขั้นต่ำตามรอบบัญชีถัดไป
สำหรับ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเคหะ ลูกค้าสามารถขอผ่อนผันค่างวดโดยไม่ต้องชำระคืนเงินต้นเป็นเวลานานสูงสุด 12 เดือน โดยชำระเฉพาะดอกเบี้ย ดังนี้ กรณีดอกเบี้ยคงที่ คำนวณอัตราดอกเบี้ยตามสัญญากู้เงิน ส่วน กรณีดอกเบี้ยลอยตัว งวดที่ 1-6 คำนวณอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา บวก 0.5% ต่อปี และงวดที่ 7-12 คำนวณอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาบวก 1.0% ต่อปี นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถขอวงเงินกู้เพิ่ม โดยได้วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท เมื่อรวมกับภาระหนี้สินเชื่อเคหะ แล้ว ต้องไม่เกิน 100% ของราคาประเมินเดิม ทั้งนี้ ไม่ต้องประเมินราคาหลักประกันใหม่ โดยให้ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี แต่ไม่เกินระยะเวลาสิ้นสุดสินเชื่อเคหะหลัก อัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 = 4.5%ต่อปี หลังจากนั้น = MLR ลบ 0.5% ต่อปี
“ธนาคารธนชาตและลูกค้าถือว่าเป็นหุ้นส่วนกัน ในยามปกติเราก็สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถทำธุรกิจหรือธุรกรรมทางการเงินได้โดยสะดวก เป้าหมายหลักคือเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ดังนั้นในยามที่ลูกค้าเดือดร้อนลำบาก เราก็พร้อมที่จะเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือลูกค้าของเราด้วยเช่นกัน เชื่อว่ามาตรการที่ออกมาในครั้งนี้จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นายสมเจตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ลูกค้าผู้ประสบภัยสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือจากธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย ได้ที่สาขาใกล้บ้าน หรือโทร. 1770