กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--PRdd
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ 2 วันติดต่อกัน โดยล่าสุดได้ทำจุดสูงสุดไว้ที่อยู่ที่ระดับ 1,462 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศได้พุ่งสูงสุดเช่นเดียวกัน ที่ระดับ 20,650/20,750 บาทต่อบาททอง หลังจากกระแสความกังวลในปัญหาหนี้สาธารณะของยูโรโซนกลับมาอีกครั้งในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมูดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส หั่นเครดิตโปรตุเกสหนึ่งขั้น ลงมาอยู่ที่ Baa1 จากเดิม A3 พร้อมกับเตือนว่าโปรตุเกสอาจต้องออกรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทำให้ทองคำกลับมาเป็นที่ต้องการของนักลงทุนอีกครั้ง ประกอบกับปัญหาจลาจลที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลางยังคงหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง โดยราคาน้ำมันก็ยังคงยืนในระดับสูง ส่งผลให้ราคาทองคำวิ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FED)ที่ผ่านมายังคงช่วยหนุนราคาทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน เมื่อเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ระบุว่า"คณะกรรมการเฟดจะต้องจับตาดูแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐอย่างใกล้ชิด" ทำให้การคาดการณ์ก่อนหน้าที่ว่าเฟดอาจจะผ่อนคลายนโยบายเชิงปริมาณมาณ(QE2)จางหายไป
นางสาวฐิภา กล่าวว่า ปัจจัยที่หนุนราคาทองคำอยู่ในขณะนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนราคาทองคำมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้การปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ของราคาทองคำก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปนัก แม้ว่าจีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก0.25% ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าตลาดทองคำไม่ได้ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนทางวายแอลจี มองว่าราคาทองคำยังคงสามารถขยับตัวขึ้นได้อีก แต่ในช่วงราคา 1,466-1,470 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 20,890และ20,950 บาทต่อบาททอง นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร แนะนำนักลงทุนให้รอจังหวะการอ่อนตัวของราคาแล้วเข้าซื้อ โดยจุดซื้อจะอยู่ที่บริเวณ 1,440 และ 1,430 ดอลลาร์/ออนซ์หรือ 20,520และ 20,370 บาทต่อบาททอง โดยสามารถขายทำกำไรในบริเวณ 1,470และ1,480 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 20,950และ 21,090 บาทต่อบาททอง