กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--ดับเบิลอิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์
“กอด” สัมผัสพิเศษ! อ้อมกอดเล็ก ๆ ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจของคุณตาคุณยาย
ภาพหลานสาวกอดคุณตา หลานชายนั่งตักกอดคุณย่า ช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นผูกพันให้กับทั้งสองฝ่าย ช่วยให้คุณตาคุณยายสุขภาพดี และอารมณ์ดี
เมื่อเจ้าตัวน้อยโผเข้ากอดคุณตาคุณยาย ไม่เพียงแค่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในครอบครัวเท่านั้น แต่ได้รับการพิสูจน์ในทางการแพทย์ว่าเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้สูงอายุอายุยืนขึ้นอย่างมีความสุข
คุณเบ็ญจพร มงคลธง นักจิตวิทยา ประจำบริษัทโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท จำกัด ( ผู้สูงอายุ ) กล่าวว่า “ เมื่อหลาน ๆ กอดคุณตาคุณยายด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่น พลังงานความร้อนของร่างกายที่ส่งผ่านถึงกัน ทำให้ท่านรู้สึกดี, ปลอดภัย, เป็นที่ยอมรับ, ผ่อนคลาย, มีความสุข, มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่, มองเห็นคุณค่าในตัวของท่านเอง และทำให้เกิดความมั่นใจตามมา เพราะการกอดเป็นการสัมผัสแบบ 3 มิติ ซึ่งถ่ายทอดความรักความห่วงใยได้ดีกว่าการสัมผัสแบบ 2 มิติ เช่น การดูรูป, อ่านจดหมาย ฯลฯ การแสดงออกแบบ 3 มิติสามารถแสดงออกได้หลายทางเช่นการกอด, จับมือ, บีบ, จับ, นวด, พูดคุย ฯลฯ
และการกอดก็ช่วยให้หลาน ๆ ได้รู้สึกดีต่อตัวเอง, มีจิตใจอ่อนโยนพร้อมที่จะรัก และยอมรับผู้อื่น, รู้สึกมั่นคงปลอดภัย, เชื่อใจ, มีความสุข, เป็นที่ยอมรับ และช่วยพัฒนาไอคิว, ลดความหวาดกลัว, รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่, ลดความเครียดหงุดหงิด, ลดการต่อต้านผู้อื่น และความรู้สึกในทางลบต่อสิ่งรอบตัว
คุณตาคุณยายได้อะไรจากอ้อมกอดของหลาน
พญ. สิรนิสถ์ ประพันธ์ศิลป์ แพทย์สาขาอายุรกรรมทั่วไป กล่าวว่า การ “ กอด ” ส่งผลดีโดยตรงต่อสุขภาพ
1. ความดันโลหิตลดลง ส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หลอดเลือดขยายตัวส่งผลให้ความดันเลือดลดลง
2. ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ การกอดช่วยเพิ่มฮอร์โมนออกซิโทซิน ( ฮอร์โมนที่ร่างกายหลั่งออกมาเมื่อมีความรักความผูกพัน ) ซึ่งจะช่วยลดโอกาสของการเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกอดจะช่วยให้สารออกซิโทซินหลั่งในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
3.ส่งผลดีต่อสมอง การสัมผัสโอบกอดช่วยลดการหลั่งสารคอร์ติซอลซึ่งเป็นสารที่หลั่งออกมาเมื่อเครียด และช่วยให้สมองหลั่งสารโดปามีน ( Dopamine ), เอ็นดอร์ฟีน ( Endorphine ) และเซเรโทนิน ( Seretonin ) เป็นสารแห่งความสุขเบิกบานแจ่มใส ทำให้อารมณ์ดี, ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย, อารมณ์ดีขึ้น และมีความสุขมากขึ้น
4. กระตุ้นการทำงานของฮีโมโกลบิน ฮีโมโกลบินเป็นส่วนประกอบในเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดการลำเลียงของออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ส่งผลให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแข็งแรง
5. ช่วยให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น
6. ทำให้มีความสุข การกอด, จับมือ และสัมผัส ช่วยลดระดับฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียด, ซึมเศร้า ทำให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน รู้สึกกระตือรือร้นที่จะทำสิ่งต่าง ๆ อยากมีชีวิตอยู่, ลดอาการซึมเศร้า, รู้สึกเป็นที่รัก และต้องการของคนในครอบครัว ส่งผลให้ความเครียดลดลงพูดบ่นน้อยลงฯลฯ
กอดกันอย่างไรคุณตาคุณยายถึงแข็งแรง
“ กอด” ทำได้ง่าย ๆ ทุกที่ทุกเวลาที่รู้สึกอยากกอดแต่ต้องเป็นอ้อมกอดที่สื่อถึงความรู้สึกที่อบอุ่นและแสดงความรักจากใจ ด้วยความรู้สึกที่อยากกอดจริง ๆ ไม่ใช่กอดด้วยการถูกบังคับ หลาน ๆ ควรสบตาคุณตาคุณยายก่อนกอด และหลังจากผละจากอ้อมกอด
อ้อมกอดหลากหลายรูปแบบ
อ้อมกอดแบบหมี ( Bear Hug )
การกอดด้วยการเบียดตัวอย่างเต็มที่ และรวดเร็ว เช่นหลานโผเข้ากอดคุณตาแบบเต็มตัว ( ท่านี้เหมาะกับคุณตาคุณยายที่ยังแข็งแรงหรือกำลังอยู่ในท่านั่งแบบมั่นคงเท่านั้น ) เป็นท่ากอดที่แสดงออกถึงความพิเศษของผู้ที่ถูกกอด, บ่งบอกความรัก, ความปลอดภัย และให้ความรู้สึกที่อบอุ่น
โอบเอวด้านข้าง ( Side to Side )
ท่านี้เป็นการโอบเอวจากด้านข้างเหมาะที่คุณตาคุณยายจะแสดงความรักกับหลานด้วยท่านี้
กอดแบบแซนด์วิช ( Sandwich Hug )เป็นการกอดกันแบบ 3 — 4 คน โดยให้คุณตาหรือคุณยายอยู่ตรงกลางในท่านั่ง แล้วหลาน 2 — 3 คนยืนโอบกอดจากทั้งด้านหน้าด้านหลังและด้านข้าง เป็นการแสดงถึงความรักผูกพันให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
“ สงกรานต์ปีนี้พาหลาน ๆ ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายพร้อมกับกอดท่านวันละหลาย ๆ ครั้งให้ท่านมีความสุขยิ้มสดใสและสุขภาพกายใจแข็งแรงกันนะคะ ” คุณเบ็ญจพร กล่าวปิดท้าย
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
วรรณภา ประจงศักดิ์
บริษัท ดับเบิลอิมแพค มาร์เก็ตติ้ง คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
0-2769-2000 ต่อ 5302, 5303