กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
การไฟฟ้านครหลวง เผยผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2550 มีผลกำไรสุทธิ 3,400 ล้านบาท เร่งพัฒนาระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้มีความมั่นคงพร้อมลุยธุรกิจเสริมครบวงจร เตรียมดันรายได้ทั้งปี 1.3 แสนล้านบาท
นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2550 ว่า กฟน.จำหน่ายไฟฟ้าให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ จำนวน 21,007 ล้านหน่วย ซึ่งยอดจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีรายได้รวม 67,700 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3,400 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 500 ล้านบาท
ทั้งนี้คาดว่าปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าเมื่อสิ้นปี 2550 จะอยู่ที่ประมาณ 42,500 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.5% ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้รวม 138,800 ล้านบาท มีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กฟน.ได้พัฒนาระบบไฟฟ้าและการให้บริการ เน้นความทันสมัย รวดเร็วและครบวงจร ในรูปแบบต่างๆ หลายโครงการ ส่งผลให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปัจจุบันมีผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 2.6 ล้านราย มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 7,720 เมกะวัตต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 ประมาณ 5% และสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างเพียงพอสำหรับงบประมาณ และแผนการลงทุนที่สำคัญในการพัฒนาระบบไฟฟ้า ปีงบประมาณ 2550 ได้กำหนด วงเงินดำเนินการทั้งสิ้น 29,218.2 ล้านบาท ประกอบด้วยงบประมาณทำการ 8,278.1 ล้านบาท และงบประมาณลงทุน 20,940.1 ล้านบาท โดยมีแผนพัฒนางานในด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้า ที่สำคัญ เช่น โครงการก่อสร้างสายส่ง 230 เควี บางกะปิ-ชิดลม การพัฒนาระบบสถานีต้นทางและสถานีย่อย
การพัฒนาระบบสายส่งแรงดันกลางและต่ำให้มีประสิทธิภาพ การปรับปรุงสายส่งไฟฟ้าชนิดสายอากาศแบบเปลือยเป็นสายอากาศชนิดหุ้มฉนวน การพัฒนาระบบการควบคุมการจ่ายไฟฟ้า โครงการเปลี่ยนระบบสายป้อนอากาศเป็นสายป้อนใต้ดิน 3 โครงการ คือ โครงการพหลโยธิน โครงการพญาไท และ โครงการสุขุมวิท พร้อมกันนี้ยังเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมคุณภาพการจ่ายไฟฟ้าและบริการติดตั้งระบบไฟฟ้า เช่น ตรวจสอบและควบคุมการจ่ายไฟฟ้าของสถานีต้นทางและสถานีย่อยด้วยระบบ SCADA ควบคุมระบบจำหน่ายระยะไกลด้วย ระบบ DAS ใช้แผนที่ในการออกแบบติดตั้งระบบไฟฟ้าและการบริการด้วยระบบ GIS เป็นต้น
สำหรับค่าดัชนีความมั่นคงในระบบไฟฟ้าและความสูญเสียในระบบจำหน่ายในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้ มีจำนวนไฟฟ้าดับ ( SAIFI ) เฉลี่ย 1.104 ครั้ง/ราย/5 เดือน ระยะเวลาไฟฟ้าดับ ( SAIDI ) เฉลี่ย 28 .164 นาที /ราย/5 เดือน โดย กฟน.ได้ปรับเปลี่ยนการคำนวณจากฐานของลูกค้าจริงทำให้สะท้อนผลการดำเนินงานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำในส่วนการขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กฟน.ได้เร่งดำเนินการแล้วหลายธุรกิจ เช่น โครงข่ายใยแก้วนำแสง หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ขณะนี้สามารถให้บริการเฉพาะโครงข่าย โดยการให้เช่า /ใช้ / เชื่อม
เส้นใยแก้วนำแสงตามความเร็ว (Speed) ในการใช้งาน ซึ่งมีผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมที่เป็น ISP แจ้งความประสงค์ใช้งานแล้วหลายราย ธุรกิจบริการสารสนเทศภูมิศาสตร์ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้งานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุดได้ลูกค้าเพิ่ม ได้แก่ กรมบังคับคดี ธุรกิจบริการจัดส่งสิ่งพิมพ์โฆษณาและจัดทำใบแจ้งหนี้ ธุรกิจบริการติดตั้งระบบไฟฟ้า และ ธุรกิจบริการคุณภาพไฟฟ้า Better Care ซึ่งแต่ละธุรกิจได้รับความสนใจ จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
ด้านการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าปัจจุบัน กฟน. มีจำนวนผู้ใช้ไฟฟ้า 2.6 ล้านราย แบ่งความรับผิดชอบออกเป็น 18 เขตและ 13 สาขาย่อย ทุกแห่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากล พร้อมนำระบบ e —service เข้ามาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากขึ้น เช่น การขอใช้ไฟฟ้า ผ่านอินเตอร์เน็ตที่ www.mea.or.th
การให้บริการรับชำระค่าไฟฟ้าโดยไม่ต้องลงจากรถยนต์ Drive Through ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการแล้วที่ การไฟฟ้านครหลวงเขตบางเขน และกำลังเตรียมขยายการให้บริการ ณ ที่ทำการการไฟฟ้านครหลวงเขตอื่นเพิ่มเติม รวมถึงการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า Call center 1130 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ เฉลี่ยในแต่ละเดือนกว่า 1.2 แสนราย นอกจากนี้ กฟน.ยังนำระบบ CRM-CEM เข้ามาให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้า โดยคำนึงถึงลูกค้าเป็นศูนย์กลางพร้อมบริการครบวงจรที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท คิธ แอนด์ คินฯ โทร. 02 663 3226 ต่อ 68
บังอร 081 904 7907
สุดารัตน์ 089 7833072