กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--Kanokrat & Friends
นายสัญชัย เจนจรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไดนาสตี้ เซรามิค จำกัด (มหาชน) ผู้นำอันดับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจกระเบื้อง เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาแม้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ( Global Financial Crisis) และ ปัญหาทางการเมือง แต่ในส่วนของตลาดวัสดุการก่อสร้างหรือ Construction Material ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก โดยเฉพาะตลาดกระเบื้องกลับมีการขยายตัวของตลาดที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่มากกว่า 20% ซึ่งส่งผลให้ทางบริษัทไดนาสตี้มียอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากทางลูกค้าให้การตอบรับในเรื่อง คุณภาพสินค้า ที่มีคุณภาพ ราคาถูก และหาซื้อง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการขาย จึงทำให้บริษัทมียอดขายถึง 5.9 พันล้านบาท ซึ่งโตมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 16% และมีกำไร 995 ล้านบาท และมีการจ่ายปันผลมากกว่า 85% ตัวเลขนี้เป็นบทพิสูจน์แล้วว่า บริษัทไดนาสตี้เซรามิค ได้ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจกระเบื้องในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย จำนวนขาย กำไร หรือแม้กระทั่งต้นทุน
สำหรับในการพัฒนาของบริษัทในปีนี้ทางบริษัทจะเน้นในเรื่องของการผลิต เพื่อตอบสนองการเจริญเติบโตของตลาดกระเบื้อง โดยบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตอีก 3 เตาผลิต ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมดประมาณไตรมาสที่ 3 รวมทั้งสิ้นแล้วจะมีกำลังการผลิตถึง 58 ล้านตารางเมตรต่อปี จึงกล่าวได้ว่าบริษัทจะเป็นผู้ผลิตกระเบื้องที่เป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ในด้านของต้นทุน บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะวิจัยและพัฒนาในส่วนของวัตถุดิบ รวมไปถึงการควบคุมต้นทุนพลังงาน โดยการนำความร้อนกลับไปใช้ในกระบวนการผลิต ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆจากอิตาลีเข้ามาเพื่อปรับปรุงรูปลักษณ์ และ คุณภาพของกระเบื้องในราคาต้นทุนที่ถูกอีกด้วย สำหรับในเรื่องงานระบบได้แก่ในการพัฒนาระบบคอมฯ นั้นขณะนี้บริษัทกำลังพัฒนาระบบใหม่เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารและวิเคราะห์ข้อมูลของแต่ละแผนก โดยยึดหลักการ รวมข้อมูลไว้ด้วยกัน (Information Centralized ) เพื่อที่จะให้การบริหาร การวิเคราะห์ และ การติดต่อสื่อสาร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านการตลาด บริษัทจะมีการขยายสาขาเพิ่ม 10-15 สาขาในปีนี้ เพื่อที่จะครอบคลุมจุดขายให้มากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อของลูกค้าให้มากที่สุด อีกทั้งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจัดแคมเปญการตลาด เพื่อส่งเสริมการขายซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ภายใต้ชื่อว่า “กระเบื้องดังของไทย ขวัญใจมหาชน พุ่งสู่ความนิยมอันดับ 1” มีการแจกรถกระบะ 8 คัน และมอเตอร์ไซค์กว่า 144 คันรวมไปถึงของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย
นายสัญชัย กล่าวต่อไปว่าสำหรับสภาวะตลาดทั่วไปในปีนี้ ปัญหาการเมืองก็ยังคงมีอยู่ แต่ปัญหานี้ก็ได้มีมาติดต่อกันทุกๆปีจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของประเทศไทย ซึ่งจากผลประกอบการในหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการเมืองไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด ในส่วนของผลผลิตทางการเกษตรก็อาจจะมีผลกระทบจากสภาวะแห้งแล้งบ้าง แต่เนื่องจากทางภาครัฐบาลยังคงให้ความสำคัญของอาชีพหลักของประเทศ และยังคงมีการสนับสนุนในส่วนของการเกษตรอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นโครงการสร้างถนนเพิ่มในต่างจังหวัด โครงการรับประกันราคาข้าว โครงการไทยเข้มแข็ง โครงการต้นกล้าอาชีพ โครงการชุมชนพอเพียง รวมไปถึงอีกหลายๆโครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้จุดประสงค์หลักคือการพัฒนาชุมชนในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของทางบริษัท ด้วยเหตุนี้ประกอบกับการพัฒนาของบริษัทที่ได้กล่าวไว้แล้ว บริษัทตั้งเป้าสำหรับยอดขายของปีนี้ว่าจะมีการเจริญเติบโตถึง 15% จากปีที่แล้ว และยังคงนโยบายการจ่ายปันผลมากกว่า 85% อีกด้วย
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์
Kanokrat@kanokratpr.com