กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 4 จังหวัด 9 อำเภอ56 ตำบล 408 หมู่บ้าน ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และตรัง ราษฎรเดือดร้อน 103,378 ครัวเรือน 247,328 คนอพยพประชาชน 7,617 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 535 หลัง บางส่วน 10,574 หลัง ถนนเสียหาย 6,013 สาย ท่อระบายน้ำ 918 แห่งฝาย/ทำนบ 227 แห่ง สะพาน/คอสะพาน 748 แห่ง วัด/โรงเรียน 694 แห่ง สถานที่ราชการ 179 แห่ง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 1,106,150 ไร่ สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบ 5,788,482 ตัว บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเสียหาย 36,814 บ่อ ทางหลวงแผ่นดินสามารถสัญจรผ่านได้ทุกเส้นทาง รถไฟสายใต้และสนามบินสามารถให้บริการเป็นปกติแล้ว ผู้เสียชีวิต 61 ราย ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 26 ราย สุราษฎร์ธานี 12 ราย กระบี่ 12 ราย พัทลุง 5 ราย ชุมพร 3 ราย ตรัง 2 ราย และพังงา 1 ราย
ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้วอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 6 จังหวัด ได้แก่ พังงา นราธิวาส สตูล ชุมพร สงขลา และกระบี่ ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบอุทกภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายพร้อมนำสิ่งของอุปโภค บริโภคไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบภัยแล้ง 47 จังหวัดณ วันที่ 12 เมษายน 2554
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว จำนวน 47 จังหวัด 416 อำเภอ 2,961 ตำบล 29,963 หมู่บ้านดังนี้ ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงราย ลำพูน พะเยา อุตรดิตถ์ ลำปาง น่าน นครสวรรค์ แพร่ สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี พิษณุโลก เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และพิจิตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เลย หนองคาย อุบลราชธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม สกลนคร ศรีสะเกษ สุรินทร์ ชัยภูมิ อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา และนครพนม ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สระบุรี สมุทรปราการ และกาญจนบุรี ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ตราด จันทบุรี สระแก้ว ระยอง ชลบุรี นครนายก และปราจีนบุรี ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป