กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--ปภ.
กรมป้องกันฯ เตือนประชาชนให้ระมัดระวังอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลตรุษจีน สั่งการให้ทุกจังหวัด เพิ่มมาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุจากการจราจร และเข้มงวดกวดขันการใช้มาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. อย่างเคร่งครัด
นายอนุชา โมขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีการประกอบพิธีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษตามธรรมเนียมจีนโบราณ มีการจุดธูปเทียนบูชาพระไหว้เจ้า เผากระดาษเงิน กระดาษทอง และจุดประทัดเพื่อเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สถานประกอบการหลายแห่งมักหยุดติดต่อกัน หลายคนถือโอกาสสำคัญนี้เดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้การจราจรบนท้องถนนคับคั่ง และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ บนท้องถนนสูง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุการจราจรในช่วงเทศกาลตรุษจีน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือน ให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ โดยตรวจสอบยานพาหนะให้อยู่ในสภาพที่ดี พร้อมใช้งานก่อนออกเดินทาง พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ประจำรถ นอกจากนี้ควรใช้ความระมัดระวังและไม่ประมาทไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ และปฏิบัติตามกฎระเบียบจราจรอย่างเคร่งครัด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ในกรณีที่ขับรถทางไกลควรมีคนผลัดเปลี่ยนหากเกิดอาการง่วงนอน นอกจากนี้ควรจอดแวะพักที่สถานีบริการน้ำมันหรือจุดพักรถที่จัดเตรียมไว้เพื่อป้องกัน การหลับใน ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียได้ รวมทั้งศึกษาเส้นทางที่จะเดินทาง ตลอดจนหลีกเลี่ยงและปรับเปลี่ยนเวลาเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด
นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกัน ฯ ได้เตรียมความพร้อมในการป้องอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยสั่งการให้ ทุกจังหวัด ฝึกซ้อมการปฏิบัติตามแผนร่วมกับหน่วยงาน อาสาสมัครและประชาชนในชุมชน เร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ให้ระมัดระวังในการเดินทางสัญจร ทั้งนี้ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยทางถนน และเข้มงวดเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ละเมิดมาตรการ 3 ม. 2 ข. 1 ร. (เมาสุราขณะขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับขี่มอเตอร์ไซด์ ไม่มีความปลอดภัย ไม่คาด เข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และขับรถเร็วเกินกำหนด) เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้น สุดท้ายนี้ หากท่านประสบเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ประสานให้ความช่วยเหลือ โดยด่วนต่อไป