กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--ปภ.
สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอรายงานสถานการณ์ภัยแล้ง และสภาวะอากาศ (ข้อมูล ณ วันที่ 23 เมษายน 2550) ดังนี้
1. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 23 เมษายน 2550 เวลา 06.00 น. ดังนี้
ความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ยกเว้นภาคเหนือ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงไว้ด้วย อนึ่ง ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนกลางแล้วคาดว่าจะแผ่ลงมา ปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 24-25 เมษายน 2550
2. ปริมาณน้ำฝน ตั้งแต่ 01.00 น. วันที่ 22 เม.ย.50 ถึง 01.00 น. วันที่ 23 เม.ย.50 ดังนี้
จังหวัดเชียงราย (อ.เมือง) 2.5 มม. จังหวัดบุรีรัมย์ (อ.นางรอง) 0.2 มม.
จังหวัดสงขลา (อ.หาดใหญ่) 6.3 มม. จังหวัดตรัง (ท่าอากาศยานตรัง) 10.0 มม.
3. สถานการณ์วาตภัย
- ไม่มีรายงานสาธารณภัย
4. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ
อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (22 เมษายน 2550) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 47,257 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 69 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด มากกว่าปี 2549 (44,430 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,827 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 9,006 และ 6,016 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 67 และ 63 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำ ทั้งสองอ่างฯรวมกัน จำนวน 15,022 ล้านลูกบาศก์เมตร
5. สถานการณ์ภัยแล้ง (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 20 เมษายน 2550) ดังนี้
5.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 53 จังหวัด 425 อำเภอ 50 กิ่งฯ 2,624 ตำบล 19,887 หมู่บ้าน ดังนี้
ลำดับที่ ภาค จังหวัด พื้นที่ประสบภัย
1 ภาคเหนือ 17 กำแพงเพชร สุโขทัย ลำปาง แพร่ ตาก น่าน ลำพูน เพชรบูรณ์ พิจิตร พะเยา เชียงใหม่ เชียงราย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ และอุทัยธานี
2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 กาฬสินธุ์ ขอนแก่น หนองคาย มุกดาหาร ยโสธร ชัยภูมิ อำนาจเจริญ หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม อุดรธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์นครราชสีมา อุบลราชธานี มหาสารคาม เลย และร้อยเอ็ด
3 ภาคกลาง 5 สุพรรณบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท และลพบุรี
4 ภาคตะวันออก 5 จันทบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง และปราจีนบุรี
5 ภาคใต้ 7 ตรัง ระนอง นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี สตูล และสงขลา
รวม 53 รวม 53 จังหวัด 425 อำเภอ 50 กิ่งฯ 2,624 ตำบล 19,887 หมู่บ้าน
5.2 ราษฎรเดือดร้อน จำนวน 5,899,896 คน 1,609,546 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ จำนวน 123,201 ไร่ (จำนวนครัวเรือนที่เดือดร้อน คิดเป็นร้อยละ 13.15 ของครัวเรือนทั้งหมด 12,236,140 ครัวเรือน ใน 53 จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง)
5.3 การให้ความช่วยเหลือ
1) การจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร
(1) การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รวม 1,708 เครื่อง แยกเป็น
- จังหวัด อำเภอ/กิ่งอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รวม 888 เครื่อง
- กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รวม 837 เครื่อง แยกเป็นเพื่อการเพาะปลูก 762 เครื่อง เพื่อการอุปโภคบริโภค 75 เครื่อง
(2) จังหวัด อำเภอ/กิ่งอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างทำนบ/ฝายเก็บกักน้ำ (ชั่วคราว) 13,562 แห่ง
(3) ขุดลอกแหล่งน้ำ 3,581 แห่ง
2) การปรับปรุงซ่อมแซมและสร้างภาชนะเก็บน้ำ
- การปรับปรุงซ่อมแซมภาชนะเก็บน้ำ
ถังเก็บน้ำ คสล. 1,041 แห่ง ถังปูนฉาบ 509 แห่ง
ถังไฟเบอร์ 912 แห่ง เป่าล้างบ่อบาดาล 1,747 แห่ง
หอถังระบบประปาหมู่บ้าน 986 แห่ง หอถังระบบประปาภูเขา 999 แห่ง
- การสร้างภาชนะเก็บน้ำ
ถังเก็บน้ำ คสล. 147 แห่ง ถังปูนฉาบ 171 แห่ง
ถังเหล็ก 165 แห่ง ถังไฟเบอร์ 159 แห่ง
โอ่งซีเมนต์ 1,149 แห่ง หอถังระบบประปาหมู่บ้าน 177 แห่ง
หอถังระบบประปาภูเขา 10 แห่ง บ่อน้ำตื้น 127 แห่ง
3) การแจกจ่ายน้ำอุปโภค/บริโภค ใช้รถบรรทุกน้ำ 1,917 คัน
แจกจ่ายน้ำ 77,235 เที่ยว จำนวน 650,562,567 ลิตร
4) งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว จำนวน 551,233,393 บาท แยกเป็น
(1) งบทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 496,550,047 บาท
(2) งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 39,418,553 บาท
(3) งบอื่นๆ 15,264,793 บาท
6. ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์คืบหน้าประการใด จักได้ติดตามและรายงานให้ทราบต่อไป