กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--มายแบรนด์ เอเจนซี่
ในช่วงที่ร่างกายจะได้พักผ่อนและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนั้นก็คือช่วงที่มนุษย์เรานอนหลับ อวัยวะหลายอย่างได้หยุดพัก ขณะเดียวกันร่างกายยังได้ผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตต่อร่างกายอีกด้วย อาจเรียกได้ว่าการนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดเลยก็ว่าได้
แต่มีคนจำนวนมากมักบ่นหลังจากตื่นนอนว่าปวดหลัง ปวดคอ ปวดเอว นั่นเป็นเพราะว่าท่านอนและวัสดุที่นอนนั้นไม่เหมาะสมกับสรีระหรือไม่ถูกสุขลักษณะก็ได้ ซึ่ง ดร.เจฟฟรี สว๊อป ไคโรแพรคเตอร์ สถาบันดีสปายน์ พัฒนาโครงสร้างร่างกาย ไคโรแพรคติก ให้ข้อมูลว่า การนอนหลับถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับสุขภาพ ดังนั้นท่านอนถือเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นเดียวกัน เพราะสามารถที่จะทำให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนเราดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็อาจะทำให้สุขภาพแย่ลงได้ ซึ่งในมุมมองของไคโรเพรคเตอร์แล้ว ท่านอนที่ดีที่สุดคือการนอนหงาย เพราะจะทำให้สามารถหลับลึก และเป็นท่าที่รองรับกระดูกสันหลังได้เป็นอย่างดี ส่วนหมอนที่นอนควรจะมีลักษณะเตี้ย หรือเป็นหมอนที่รองรับกับศรีษะและคอได้อย่างพอดี ควรเป็นหมอนที่เป็นแอ่ง โค้งเว้า
ส่วนท่านอนที่แย่ที่สุดและควรหลีกเลี่ยงคือท่านอนคว่ำ เพราะเวลาที่เรานอนคว่ำท่านี้จะบังคับให้เราต้องบิดลำคอไปด้านใดด้านหนึ่งเสมอ ซึ่งจะทำให้กระดูกสันหลังบริเวณคอเกิดความตึง เพราะถูกบิดจากท่านอนที่ไม่ถูกต้องทั้งคืน อาจทำให้เกิดอาการล๊อคหรือเรียกว่าคอตกหมอน ตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกเมื่อยคอ หรือคอเคล็ด และหากเป็นเช่นนี้เวลานานก็จะทำให้เกิดการสะสมทำให้ข้อกระดูกกดทับเส้นประสาทได้ ซึ่งอาจจะส่งผลกับข้อต่อของกระดูกสันหลัง ทำให้มีอาการปวดคอ ปวดศรีษะ มีอาการมึนงง และข้อต่อกระดูกเสื่อมเร็วขึ้นอีกด้วย
ดร.เจฟฟรี ระบุว่า นอกจากการนอนแล้ววัสดุที่นอนก็มีส่วนสำคัญที่ส่งผลต่ออาการปวดเมื่อยต่างๆ ได้ สำหรับที่นอนที่เหมาะกับสุขภาพนั้นควรเป็นที่นอนหรือฟูกที่มีความหนานุ่มในระดับที่เหมาะสม คือไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป เพราะถ้าฟูกนุ่มเกินไป จะทำให้ตัวจมลงไปในแอ่งของฟูก ส่งผลต่อกระดูกสันหลังที่ถูกบีบอัดเข้าหากัน ขณะเดียวกันถ้าหากฟูกหรือที่นอนมีความแข็งมากจนเกินไปก็จะทำให้กระดูกสันหลังตรงเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกสันหลังตึงและเครียดได้
ไคโรแพรคเตอร์อธิบายเพิ่มเติมถึงลักษณะของกระดูกสันหลังตึงเครียดว่า กระดูกสันหลังก็เป็นเหมือนสายกีตาร์ ที่ยิ่งตึงมากเท่าใดโน้ตก็สูงขึ้นเท่านั้น ระบบประสาทของคนเราก็มี “ความตึง” เช่นกัน และเมื่อกระดูกสันหลังแน่นตึงขึ้น ในส่วนโค้งของกระดูกสันหลังนั้นจะมีข้อกระดูกที่อ่อนแอที่สุดจะถูกผลักดันออกจากตำแหน่งปรกติของมัน ซึ่งเช่นเดียวกับโน๊ตเสียงแหลมๆที่ออกมาจากสายที่ถูกขึงจนตึงเกินไป ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้
นอกจากการนอนแล้วการนั่งผิดท่าหรือนั่งเก้าอี้ที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังปวดคอได้เช่นเดียวกัน ซึ่ง ดร.เจฟฟรี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ทำให้โลกเราเปลี่ยนไปมาก พวกเราก็มีท่าทางที่แย่ลงในการนั่งทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์ที่มากเกินไป ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียง่าย อ่อนล้า หมดแรง มีอาการชาบริเวณแขน และมือ ซึ่งจะส่งผลต่อเอ็นข้อมือด้วย ทำให้บางคนมีอาการปวดหัว ปวดต้นคอ และปวดหลังได้
สำหรับท่าที่ถูกต้องในการนั่งทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์นั้น ไคโรแพรคเตอร์ มีข้อแนะนำสำหรับการนั่งที่ถุกต้องเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง 5 ข้อดังนี้
1. ควรนั่งบนเก้าอี้ที่มีส่วนที่หนุนหรือรองรับกับกระดูกสันหลัง หรือมีพนักพิงข้างหลัง การนั่งพิมพ์งานหลังควรตรง ข้อศอกตั้งฉาก 90 องศา
2. ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิง โดยมีความกว้างและลึกที่ทำให้ผู้นั่ง นั่งให้หลังชนเก้าอี้ได้ โดยที่เท้าสัมผัสกับพื้น หากไม่สามารถนั่งเช่นนี้ได้ให้หาที่วางขาให้เข่าอยู่ในลักษณะเท่ากัน และวางเมาส์ไว้ใกล้ตัวเพื่อจะได้ไม่ต้องเอื้อมไปจับ พัก 1-2 นาที ทุกๆ 20-30 นาที ลุกขึ้นและผ่อนคลาย
3. พยายามนั่งให้หลังชิดพนักเก้าอี้ทุกครั้ง ไม่ควรนั่งจมลงไปในเก้าอี้ เพราะจะทำให้หลังงอได้
4. หากต้องอ่านหนังสือ หรือ เอกสาร และพบว่าเก้าอี้อยู่สูงกว่าวัตถุ ควรหาแฟ้มเอกสาร หรือกล่องมารองหนังสือเพื่อให้หนังสืออยู่ระดับเดียวกับสายตา เพราะถ้าหากอยู่ต่ำกว่าสายตาก็จะทำให้เวลาอ่านต้องมองขึ้นมองลง อาจทำให้เกิดอาการปวดที่คอและหลังท่อนบนได้
5. ไม่ควรนั่งเก้าอี้ที่มีพนักเก้าอี้ใหญ่มากเกินไป เพราะจะทำให้ต้องเขยิบเข้าไปนั่งกลางเก้าอี้ ทำให้ขาไม่ได้รับน้ำหนัก อาจทำให้ปวดหลังได้ สำหรับพนักเก้าอี้ที่เหมาะสมจะต้องทำให้หลังสามารถพิงพนักเก้าอี้ได้ และทำให้รู้สึกสบาย ไม่ทำให้หลังโค้งงอมากเกินไป ถ้าหากใครเป็นคนตัวสูง ให้หาเบาะรองนั่งมารองเพราะว่าจะช่วยรับน้ำหนักที่ขาได้มากขึ้น
และสำหรับท่านใดที่มีอาการปวดหลังหรือมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพหลัง สามารถเข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพหลังได้ที่สถาบันดีสปายน์ พัฒนาโครงสร้างร่างกาย ไคโรแพรคติก ในวันแรงงานนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นำโดย ดร.ทอม สมิธ ดร.เจฟฟรี สว๊อป ดร.แพทริก อิริคสัน และ ดร.มินห์ ฮุยน์ ในวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม เวลา 14.00-18.00 ที่สถาบันดีสปายน์ฯ สาขาสุขุมวิท 24 อาคารพรีเมียร์คอนโด ชั้น 2 สอบถามข้อมูลและลงทะเบียนได้ที่โทร 02-259-0239 หรือ 086-398-6188, 086-329-5242 (รับจำนวนจำกัด)