กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 21,050 - 21,150
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,485.50
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.12 — 30.14
- GFJ11 Hi- Low 20,990 — 20,870 ปิดที่ 20,990(12 เม.ย. 54)
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,486 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,472.2 - 1,488.6 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในระหว่างวันเช่นเดียวกัน สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ทะยาน 90.7 เซนต์ หรือ 2.2% ปิดที่ 42.571 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกอันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ วิกฤตหนี้สาธารณะและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยูโรโซนก็เป็นปัจจัยสนับสนุนแรงซื้อเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดบวก 56.68 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 12,341.83 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.16 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 1,319.68 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 4.43 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 2,764.65 จุด เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ทะยานขึ้น ช่วยชดเชยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของแบงก์ ออฟ อเมริกา และกูเกิล
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 1.55 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 109.66 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกของสหรัฐได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 18 เมษายน ซื้อเข้า 13.95 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1217.21ตัน เมื่อวันที่ 12เมษายน เข้าสู่ระดับ 1231.16ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากไอร์แลนด์ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.39% แตะที่ระดับ 1.4432 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4488 ดอลล่าร์ต่อยูโรในวันพฤหัสบดี โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4373 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 83.12 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 83.50 เยนต่อดอลลาร์โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 82.96 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดวันที่ 12 เมษา อยู่ที่ระดับ 30.13-30.16 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.12-30.14 บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 เม.ย.นี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ และจะทำให้เพดานกันสำรองเงินฝากของสถาบันการเงินรายใหญ่ของจีนพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20.5%
- นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ ได้แสดงความเชื่อมั่นผ่านทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า รัฐสภาสหรัฐจะปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาล และยังกล่าวด้วยว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันได้แจ้งให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา รับทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาตลาดการเงินทั่วโลกกำลังจับตาดูตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 14.1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะปรับตัวสูงขึ้นอีก
- นายโรเบิร์ต โซเอลลิก ประธานธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่กรุงวอชิงตันว่า ราคาอาหารที่พุ่งสูงเป็นปัญหาใหญ่สุดที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญในปัจจุบันนายโซเอลลิกแถลงข่าวหลังการประชุมระหว่างเวิลด์แบงก์และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ว่า ประชาคมโลกควรให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านอาหารเป็นอันดับแรก เนื่องจากความไม่มั่นคงทางอาหารส่งผลเสียต่อหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศยากไร้
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท ปรับทบทวนอัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 17 ประเทศ เป็น 2.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 2.6% และสูงกว่าเป้าหมาย 2% ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำหนดไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลง 2 ขั้น สู่ระดับ Baa3 จากระดับ Baa1 และคงแนวโน้มอันดับเครดิตในเชิงลบ ซึ่งการตัดสินใจหั่นอันดับเครดิตในครั้งนี้ยิ่งเป็นการเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยูโรโซน และส่งผลให้นักลงทุนส่งแรงขายทำกำไรเข้ากดดันเงินยูโร
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ทั่วไปปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค. แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.0%
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 เม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27,000 ราย แตะระดับ 412,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 380,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 382,000 ราย
- มีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะเดินหน้าใช้มาตรการ QE2 ไปจนครบกำหนดที่วางไว้ถึงเดือนมิ.ย. รวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อกระตุ้นเงินทุนหมุนเวียนในระบบ แต่นักลงทุนในตลาดเงินมองว่า การมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบสูงขึ้นและสร้างแรงกดดันให้กับมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
15 - 18เมษายน2554
วัน ? Core CPI m/m 0.2% 0.2% 0.1%
ศุกร์ ? TIC Long-Term Purchases 51.1B 59.4B 26.9B
? Consumer Sentiment 67.5 68.7 69.6
วัน ? FOMC Member Fisher Speaks - -
จันทร์