กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่น
ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในกระบวนการผลิต ที่ปลอดภัยและคุณภาพยอดเยี่ยม โดยประเทศไทยนับเป็นตลาดส่งออกที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2553
คุณธนเดช ตระกูลยิ่งยง รักษาการทูตพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์ สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “หัวใจสำคัญที่ส่งผลให้การส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มของประเทศนิวซีแลนด์ประสบความสำเร็จ เป็นเพราะหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศนิวซีแลนด์ได้กำหนดเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน ที่จะทำหน้าที่ปกป้องและสนับสนุนให้ประชาชนมีสุขภาพดีและบริโภคอาหารที่ปลอดภัย อีกทั้งประเทศนิวซีแลนด์ยังตระหนักด้วยว่าผลิตภัณฑ์ทุกประเภทจะต้องมีคุณภาพและมีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดที่ประเทศคู่ค้าบัญญัติไว้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ผลผลิตจากประเทศนิวซีแลนด์ได้รับความน่าเชื่อถือจากนานาชาติ”
ทั้งนี้ อัตราการส่งออกสินค้าอาหารและเครื่องดื่มจากประเทศนิวซีแลนด์ภายใน 17 ปีที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า และส่งออกสินค้าไปยัง 180 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังเป็นหนึ่งในสองประเทศของโลกที่ตั้งอยู่บนเกาะ แต่สามารถส่งออกสินค้าอาหารมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลผลิตทั้งหมดที่ผลิตได้ จากที่ผ่านมาประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการกล่าวขวัญไปทั่วโลกว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูง โดยสำนักงานความปลอดภัยด้านอาหารประเทศนิวซีแลนด์(NZFSA) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระได้อำนวยความสะดวกด้านการส่งออกอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร โดยการออกใบอนุญาตการส่งออกในแต่ละปีมากกว่า 125,000 ฉบับ
คุณธนเดช กล่าวว่า “เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์จากประเทศนิวซีแลนด์ถือเป็นทางเลือกที่โดดเด่นในยุคปัจจุบัน ที่คนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของอาหาร”
“เรามั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากเราริเริ่มใช้กระบวนการผลิตใหม่ๆที่ช่วยสนับสนุนให้ผลผลิตของเราได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เช่น ระบบติดตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวปราศจากโรค และการเลี้ยงสัตว์ด้วยระบบเปิดตามธรรมชาติ นอกจากนี้รัฐบาลจัดระบบการจัดการสำหรับอุตสาหกรรมประมง เพื่อรับประกันว่าการจับสัตว์น้ำจะต้องเป็นไปอย่างยั่งยืนและปริมาณสัตว์น้ำจะต้องมีเพียงพอสำหรับการบริโภคในระยะยาว ทั้งนี้ด้วยสภาพทางภูมิประเทศของนิวซีแลนด์ ที่ใกล้กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จึงทำให้ประเทศนิวซีแลนด์เหมาะสมที่จะเป็นแหล่ผลิตอาหารและเครื่องดื่มชั้นเยี่ยมสำหรับชาวไทย” คุณธนเดช กล่าวเพิ่มเติม
ระบบการติดตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะผลิตอาหารให้มีความปลอดภัยของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งอุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นอุตสาหกรรมแรกที่มีการใช้ระบบดังกล่าวเพื่อจัดเก็บข้อมูลของสัตว์แต่ละตัวในทุกๆฟาร์มเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการส่งออก และจุดเด่นสำคัญ คือ ระบบได้อนุญาตให้ผู้บริโภคตรวจสอบได้ว่าเนื้อสัตว์ที่ซื้อไปถูกเลี้ยงจากฟาร์มแห่งใด นอกจากนี้ประเทศนิวซีแลนด์ยังผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวดจากองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศด้วย โดยปศุสัตว์ในประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการรับรองสถานะปราศจากโรค อีกทั้งประเทศนิวซีแลนด์ยังเป็นหนึ่งในสี่ประเทศของโลกที่ปลอดจากโรคผิดปกติทางประสาทของวัว หรือที่เรียกกันว่า “ โรควัวบ้า ”
ผู้ส่งออกและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกในประเทศนิวซีแลนด์ได้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานระบบการวิเคราะห์อันตราย และจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าในทุกขั้นตอนของการดำเนินการเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตไปจนถึงขั้นตอนการกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคได้ผ่านการระบบจัดการและการเฝ้าติดตามผลด้วยมาตรฐานสูงสุด โดยเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่รัฐบาล ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจอาหาร เพราะฉะนั้นผู้บริโภคจากทั่วโลกสามารถซื้อสินค้าที่ผลิตจากประเทศนิวซีแลนด์ได้อย่างมั่นใจ
ประเทศนิวซีแลนด์มีการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความหลากหลาย โดยอุตสาหกรรมอาหารนับเป็นภาคการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์ ในปี 2553 ประเทศไทยเป็นตลาดส่งออกที่ขยายตัวสูงสุดของประเทศนิวซีแลนด์ โดยอัตราการส่งออกสินค้าอาหาร และเครื่องดื่มในปีดังกล่าวขยายตัวมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ผลิตภัณฑ์นมและเนย เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผลไม้ และไวน์
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์จากนมเนย
ผลิตภัณฑ์นมและเนยจากประเทศนิวซีแลนด์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตโลกโดยรวม แต่นิวซีแลนด์กลับเป็นประเทศที่มีสัดส่วนการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์นมและเนยเป็นหนึ่งในสามของปริมาณการค้าในตลาดโลก เนื่องจากประเทศนิวซีแลนด์ส่งออกผลผลิตมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตที่ผลิตได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศส่วนใหญ่ที่ผลผลิตจากนมที่ได้จะใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศ 95 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น ภาคเกษตรกรรมของประเทศนิวซีแลนด์ จึงนับว่าเป็นภาคการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ดังเห็นได้จากการเลี้ยงปศุสัตว์จะให้อาหารด้วยหญ้า
เท่านั้น อีกทั้งปล่อยให้สัตว์อยู่ในทุ่งโล่งตามธรรมชาติภายใต้สภาพภูมิอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดทั้งปี จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์นมและเนยจากประเทศนิวซีแลนด์ผลิตด้วยกรรมวิธีที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และมีคุณภาพยอดเยี่ยม ขณะที่ปัจจุบันสินค้าเกษตรอินทรีย์กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน อีกทั้ง ประเทศนิวซีแลนด์มุ่งให้ความสำคัญกับระบบการผลิตที่ยั่งยืน โดยบริษัทฟอนเทียร่า ซึ่งเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมและเนยที่ใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ คาดหวังว่าบริษัท จะมีผู้ส่งมอบวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองด้านเกษตรอินทรีย์จำนวน 200 ราย ภายในปี 2556 ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ นมและเนยของประเทศนิวซีแลนด์มีความหลากหลายมากตั้งแต่ส่วนประกอบพื้นฐานถึงส่วนประกอบที่พิเศษเฉพาะตัว
เนื้อสัตว์
ประเทศนิวซีแลนด์มีประสบการณ์อย่างมากในกระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ พร้อมความชำนาญและมีระบบการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้น นิวซีแลนด์เป็นประเทศผู้ส่งออกเนื้อแกะที่ได้ตามหลักมาตรฐานฮาลาล ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งนอกจากแกะแล้วผลิตภัณฑ์หลักอื่นๆ ประกอบด้วย เนื้อลูกแกะ เนื้อวัว เนื้อลูกวัว เนื้อกวางที่ได้ตามหลักมาตรฐานฮาลาล อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปศุสัตว์ที่ใช้วิธีการเลี้ยงสมัยใหม่ถูกแนะนำให้เป็นที่รู้จักและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น การเลี้ยงแกะและวัวด้วยกรรมวิธีเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้การได้รับการันตีให้มีสถานะเป็นประเทศที่ปราศจากโรค ตลอดจนชื่อเสียงด้านความปลอดภัยและสุขภาพที่ดี ส่งผลให้วัตถุดิบที่ได้มาจากสัตว์เหล่านี้เป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับนำไปใช้เพื่อการแพทย์และเภสัชกรรมที่ผลิตจากธรรมชาติ
อาหารทะเล
ประเทศนิวซีแลนด์มีการควบคุมบริเวณพื้นที่สำหรับจับสัตว์น้ำ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก อีกทั้งมีอาณาเขตที่ตั้งแยกออกมาโดดเดี่ยวในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าปลาที่จับมานั้นอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่สะอาดและมาจากสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติอย่างแท้จริง ประเทศนิวซีแลนด์จึงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในโลก อีกทั้งการประมงในประเทศนิวซีแลนด์ครอบคลุมสายพันธุ์ปลามากกว่า 96 สายพันธุ์ รวมไปถึง กุ้ง หอย ปู หอยแมลงภู่ กุ้งมังกร7สี ปลาโฮกิ ปลาหมึก และปลาแซลมอน ซึ่งอยู่ภายใต้ระบบการจำกัดปริมาณสัตว์น้ำที่จะสามารถถูกจับขึ้นมาจากทะเล เพื่อทำให้มั่นใจในความยั่งยืนในผลผลิตภาคประมง ทั้งนี้อุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีระบบจัดการด้านประมงที่ยั่งยืนที่สุดในโลกถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกโดยการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ และอีกครั้งโดยการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Marine Policy นอกจากนี้ยังผ่านโครงการรับประกันด้านคุณภาพที่เข้มงวดโดยครอบคลุมทั้งการตรวจสอบคุณภาพน้ำและกระบวนการดำเนินการ
ผลไม้
ผักและผลไม้จากประเทศนิวซีแลนด์ผ่านขั้นตอนการเพาะปลูกอย่างสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และภูมิอากาศ ตลอดจน คุณภาพดินที่ดี ปัจจัยเหล่านี้ได้อำนวยให้ประเทศนิวซีแลนด์สามารถเพาะปลูกผลผลิตทางการเกษตรได้หลายหลากประเภท ส่งผลให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศส่งออกสินค้าผักและผลไม้สดราย
ใหญ่ของโลก อีกทั้ง ภาคเกษตรกรรมของประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการรับรองเกี่ยวกับความปลอดภัยและความยั่งยืนของกระบวนการผลิตและพยายามลดการใช้ปริมาณสารเคมีทางการเกษตรในกระบวนการผลิตผักและผลไม้ให้น้อยที่สุด ในขณะที่บทบาทการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์กำลังเติบโตอย่างเนื่อง ประเทศนิวซีแลนด์เป็นผู้ริเริ่มพัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่องทั้งผักและผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล แพร์ กีวี พืชตระกูลถั่ว ข้าวโพดหวาน แครอท มันฝรั่ง หัวหอม อโวคาโด และเบอร์รี่
ไวน์
Sustainable Winegrowing New Zealand ก่อตั้งขึ้นเพื่อเริ่มต้นอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ตั้งแต่ 15 ปีก่อนและมีผู้เพาะปลูกองุ่นจากทุกภูมิภาคนำเอาหลักการต่างๆไปปฏิบัติ ทั้งนี้บริษัท เดอะ นิวซีแลนด์ ไวน์ คอมพานี เป็นบริษัทผู้ผลิตไวน์รายแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จในการรับรองผลิตภัณฑ์ไวน์คาร์บอนซีโร่(Carbon Zero) นอกจากนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ทั้งระบบยังให้คำรับรองที่จะผลิตไวน์ด้วยกรรมวิธีที่ยั่งยืนและมีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจต่างๆ ในอุตสาหกรรมการผลิตไวน์ทั้งหมดต้องได้รับการตรวจสอบว่าใช้กรรมวิธีการผลิตที่ยั่งยืนภายใน 2 ปีข้างหน้า
ประเทศนิวซีแลนด์มีความหลากหลายในแหล่งที่มาของอาหารและเครื่องดื่ม หุ้นส่วนในการผลิต กระบวนการดำเนินงาน และกระบวนการผลิต พร้อมด้วยชื่อเสียงโดดเด่นด้านผลผลิต ทำให้อาหารจากประเทศนิวซีแลนด์ได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลก และประเทศนิวซีแลนด์ยังได้สะสมประสบการณ์อย่างมากในด้านการส่งออกในตลาดทั่วโลก
ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มจากประเทศนิวซีแลนด์
อุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มในประเทศนิวซีแลนด์คิดเป็นสัดส่วนถึงครึ่งของมูลค่าการค้าขายเพื่อการส่งออกของประเทศและนับเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จให้กับประเทศนิวซีแลนด์ ผลผลิตจากประเทศนิวซีแลนด์ได้ถูกส่งออกไปยัง 180 ประเทศทั่วโลก โดยได้รับการยอมรับในระดับสากลถึงการใช้กรรมวิธีการผลิตที่ปลอดภัยและยั่งยืน มีคุณภาพยอดเยี่ยม ที่ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าทั่วโลก
ประเทศนิวซีแลนด์เป็นผู้นำการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มของโลก และยังเป็นผู้ส่งออกสินค้านมและเนย เนื้อลูกแกะ และเคซิน รายใหญ่ที่สุดของโลก นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำการส่งออกผลไม้สด เนื้อวัวแช่แข็ง ชีส และ ไวน์ อีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์จากประเทศนิวซีแลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องความสดและรสชาติ ที่เป็นผลสืบเนื่องจากการเติบโตขึ้นมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ขณะเดียวกันอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศนิวซีแลนด์ ยังนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารอีกมากมาย
ข้อมูลเกี่ยวกับสำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์
สำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์(NZTE) เป็นหน่วยงานพัฒนาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศนิวซีแลนด์ที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจโดยมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ด้านการส่งออก สร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจแก่ภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจเอกชนต่างๆ สำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์นำเสนอโอกาสต่างๆ ให้แก่ภาคธุรกิจผ่านทางเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกโดยทำงานร่วมกับองค์กรธุรกิจและนักลงทุนในระดับนานาชาติ
สำหรับผู้สนใจทำธุรกิจกับประเทศนิวซีแลนด์สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.newzealand.com
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ขอสัมภาษณ์พิเศษกับสำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์ กรุณา ติดต่อ
คุณปรวรรณ ปานปั้น
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทสปาร์ค คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ : +66 02 653 2717
อีเมล์ : aoy@spark.co.th