กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
เมื่อก้าวเข้าสู่หน้าร้อน... สิ่งที่ทุกคนกลัวและกังวลมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นแสงแดด เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ที่มีความเข้มของรังสีอัลตราไวเลตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์ที่นับเป็นเวลาวิกฤติที่ควรหลีกเลี่ยงแดดมากที่สุด แต่ในทางกลับกัน เดือนนี้กลับเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมในการทำกิจกรรมนอกสถานที่มากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนริมทะเล เที่ยวน้ำตก เข้าค่ายฤดูร้อน ฯลฯ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิวหนัง ซึ่งเป็นปราการด่านแรกที่ต้องเจอกับแสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลต
ภก.วิพิน กาญจนการุณ นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า อันตรายของรังสีอัตราไวโอเลตที่มากับแสงอาทิตย์ แบ่งได้เป็น อันตรายแบบเฉียบพลัน ได้แก่ อาการร้อน บวม แดง ผิวหนังไหม้ และอันตรายแบบเรื้อรัง ได้แก่ ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดฝ้า กระ จุดดำ รวมถึงมะเร็งผิวหนัง ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงเป็นตัวช่วยในการป้องกันอันตรายจากรังสียูวีได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์กันแดดมีวางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาดและมีหลากหลายยี่ห้อ จึงอยากแนะ 3 วิธีง่ายๆ ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูง ดังนี้
1. ค่า SPF ต้องเหมาะสม ค่า SPF เป็นตัวเลขบอกประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดด โดยจะมีค่า SPF ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป สำหรับผู้ที่ทำงานในร่มตลอดเวลา ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 6-14 ผู้ที่ต้องออกนอกสถานที่หรือโดนแดดเป็นประจำ ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 15-29 สำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด SPF 30-50
2. สามารถป้องกันได้ทั้ง UV-A และ UV-B ในแสงแดดจะมีรังสีทั้ง 2 ชนิดนี้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสีทั้ง UV-A และ UV-B เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิผลในการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด
3. พิจารณาองค์รวมของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ใช้แล้วต้องไม่ระคายเคือง ยี่ห้อต้องได้มาตรฐาน เนื่องจากบางยี่ห้อมีค่า SPF ต่ำกว่าที่ระบุในฉลาก รวมถึงจะต้องพิจารณารูปแบบของ ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ครีม เจล โลชั่น น้ำมัน สเปรย์ เป็นต้น โดยรูปแบบที่นิยมใช้ มากที่สุดจะอยู่ในรูปเนื้อครีมหรือโลชั่น นอกจากนี้ราคาจะต้องไม่แพงจนเกินไป
.... ยังกล่าวเสริมถึงวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ถูกต้อง ดังนี้
- ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 1/2 ชั่วโมง หรือถ้าทาก่อนออกแดด 1 ชั่วโมง ได้จะยิ่งดี และควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง เมื่อต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ
- ผู้ที่แพ้แดดหรือผิวหนังอักเสบได้ง่าย ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ที่สูงๆ และไม่ควรออกแดดเป็นเวลานานๆ
- ควรทากันแดดให้ทั่วทั้งผิวหน้า ลำตัว ถ้าต้องโดนแดดจัดอาจใช้ลิปสติกที่มีสารกันแดดทาริมฝีปากด้วย
- ก่อนใช้ควรมีการทาทดสอบที่บริเวณท้องแขนว่ามีอาการแพ้หรือไม่ ถ้ามีผื่น หรือ คัน ให้ล้างออกและหยุดใช้ทันที
“เรียกได้ว่าผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนเช่นนี้ ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วง 10.00-15.00 น. นอกจากนี้ควรใส่หมวก กางร่ม สวมแว่นกันแดด และสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด เมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง เท่านี้ก็สามารถบอกลาอันตรายของแสงแดดไปได้เลย” นายกสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล กล่าวทิ้งท้าย
***สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมฝ่ายประชาสัมพันธ์ 0-2718-3800 ต่อ 132/136