กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 6.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,492.90 USDต่อออนซ์ เนื่องจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัว หลังจากที่ S&P มีมุมมองเชิงลบต่อหนี้สาธารณะของสหรัฐ และอาจจะปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐลง
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 6.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,492.90 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,477.80 — 1.498.60 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1.498.60 USDต่อออนซ์ ใกล้ 1,500 USD เนื่องจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัว หลังจากที่ S&P มีมุมมองเชิงลบต่อหนี้สาธารณะของสหรัฐ และอาจจะปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐลงจากระดับ AAA เว้นเสียแต่ว่าภาครัฐบาลของสหรัฐจะลดการขาดดุลการคลัง และหนี้ภาครัฐบาลลงให้ได้ภายในปี 2013 ( + )
- กรีซมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในเรื่องการชำระหนี้ภาครัฐ นักลงทุนให้ความสนใจในการแก้ปัญหาหนี้ภาครัฐของกรีซ และคาดว่า กรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางด้านรมว.คลังของกรีซได้ปฏิเสธ แผนการปรับโครงสร้างหนี้ แม้ว่าทางเยอรมันจะหยิบยกปัญหานี้ขึ้นมาพิจารณา และนักลงทุนให้ความสนใจต่อการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ( + )
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร โดยมาอยู่ที่ 1.424 ดอลลาร์ต่อยูโร จากความวิตกที่เพิ่มขึ้นว่า กรีซจะถูกบังคับให้ทำการปรับโครงสร้างหนี้ ( - )
- ราคาน้ำมัน Nymex ปรับลดลง 2.54ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 107.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจาก S&P ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ "เชิงลบ" ( - )
- สถานการณ์ในลิเบีย ยังคงมีการสู้รบระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน แต่ผู้นำลิเบียตกลงให้ UN ให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานชาวต่างประเทศที่อยู่ในลิเบียและยังไม่สามารถอพยพออกไปได้ โดยข้อตกลงนี้ไม่ได้กล่าวถึงการหยุดยิงแต่อย่างใด (+)
SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจำนวน 1,231.16 ตัน
Technical Analysis:
ในระยะสั้นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาทองคำเริ่มจำกัดมากขึ้น เนื่องจากเข้าใกล้กรอบแนวต้านสำคัญที่ 1,500-1,510 ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีแรงเทขายออกมาเมื่อราคาทองคำเข้าใกล้กรอบแนวต้านดังกล่าว อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยจากกราฟรายวันราคาทองคำยังสามารถยืนอยู่เหนือเส้น uptrend line ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,453