ไทยพาณิชย์ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/2554 สูงเป็นประวัติการณ์ 1.3 หมื่นล้านบาท ผลจากการเติบโตด้านสินเชื่อและกำไรจากเงินลงทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 20, 2011 12:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/2554 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1.3 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้นถึง104.7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อหักกำไรครั้งเดียวจากเงินลงทุนจำนวน 5.1 พันล้านบาทแล้ว ผลประกอบการปกติของไตรมาสที่1 ได้เติบโตขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดที่ 8 พันล้านบาท จากการขยายตัวอย่างมากด้านสินเชื่อถึง 20.1% การเพิ่มขึ้นที่เด่นชัดของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย 31.2% ในส่วนของคุณภาพสินเชื่อได้มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ลดลงมาอยู่ที่ 3.05% อันเป็นระดับต่ำสุดหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ให้ความเห็นต่อผลประกอบการไตรมาส 1/ 2554 ที่โดดเด่นว่า “ผลประกอบการที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของธนาคารในสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธนาคารได้มีการปรับยุทธศาสตร์และรูปแบบการดำเนินงานในทุกกลุ่มธุรกิจ ผลประกอบการที่ดีมากแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้” ประธานกรรมการบริหารกล่าวเสริมว่า “เรามองเห็นศักยภาพในการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ และเชื่อมั่นว่าความสามารถใหม่ๆ ของธนาคารจะเป็นรากฐานที่สำคัญให้ธนาคารดำเนินธุรกิจอย่างโดด เด่นในภาคการเงิน นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอันเกิดจากโครงการปรับปรุงธนาคารที่มีมาอย่างต่อเนื่องในทศวรรษที่ผ่านมาและจะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต” การขยายตัวของสินเชื่อสูงถึง 20.1% เทียบกับไตรมาส 1/2553 หรือ 6.6% นับจากต้นปี 2554 โดยในไตรมาส 1/2554 สินเชื่อ เพิ่มขึ้น 6.9 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งและกระจายทั่วทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ ขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 22.4% ธุรกิจ SME เพิ่มขึ้น 28.4% และธุรกิจลูกค้าบุคคลเพิ่มขึ้น 17.5% การขยายตัวอย่างมากของสินเชื่อ ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 14.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้กำไรสุทธิของธนาคารขึ้นมาอยู่ในระดับสูง รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (ไม่รวมกำไรพิเศษครั้งเดียวของเงินลงทุน) สูงขึ้นถึง 31.2% เทียบกับไตรมาส 1/2553 อันเป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ การเพิ่มขึ้นอย่างมากของรายได้จากการรับประกัน บริหารการเงิน และบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ กำไรครั้งเดียวที่ไม่เป็นตัวเงินจากเงินลงทุนในไตรมาส 1/2554 เกิดจากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCNYL เป็นจำนวนเงิน 8.4 พันล้านบาท ทำให้ธนาคารถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 47.33% เป็น 94.66% ซึ่งผลจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มนี้ และตามมาตรฐานทางบัญชีใหม่ทำให้ธนาคารต้องมีการประเมินมูลค่าของหุ้น SCNYL ที่ธนาคารถือครองอยู่เดิมจำนวน 47.33% ด้วยราคาหุ้นเดียวกับราคาที่ซื้อหุ้นเพิ่ม ส่งผลให้เกิดกำไรครั้งเดียวที่ไม่เป็นตัวเงินจากการลงทุนเป็นจำนวน 5.1 พันล้านบาท คุณภาพสินทรัพย์มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ณ สิ้นไตรมาส 1/2554 ลดลงมาอยู่ที่ 3.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 คุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ส่งผลให้การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง ทั้งนี้ อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มมาอยู่ที่ 110.6% ณ สิ้นไตรมาส 1/2554 เทียบกับ 107.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารคาดว่าแนวโน้มจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไปนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ให้ความเห็นว่า “ผลกำไรสุทธิที่โดดเด่นของธนาคาร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของพนักงาน การร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อนำส่งบริการทางการเงินที่ทันต่อเหตุการณ์และตรงต่อความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้การสร้างความผูกพันให้เกิดแก่ทั้งพนักงานและลูกค้า เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่อยู่ในระดับแนวหน้าของตลาดในปัจจุบันและจะต่อเนื่องไปในอนาคต ตลอดจนจะช่วยผลักดันให้ธนาคารสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น ต่อสังคม และทั้งนำไปสู่การเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศ”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ