กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--IR network
บิ๊ก EARTH มองแนวโน้มราคาถ่านหินปีนี้ยังสดใสต่อเนื่อง เหตุราคาไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องชี้เป็นผลเกี่ยวเนื่องหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่ออสเตรเลียและวิกฤติการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น ทำให้ ดีมานด์พุ่ง ดังนั้นส่งผลดีต่อธุรกิจ วางเป้ายอดขายถ่านหินปีนี้แตะระดับ 1.2 ล้านตัน คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 40% จากกำลังการผลิตปี 2553 ที่ทำได้ 8 แสนตัน โดยมาจากการขยายฐานลูกค้าในโซนภาคกลางและภาคตะวันตก รวมถึงเตรียมเปิดตลาดใหม่โดยตรงในประเทศจีน
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยถึงแนวโน้มของธุรกิจจัดจำหน่ายถ่านหินในปีนี้ว่ายังคงสดใส โดยราคาถ่านหินในช่วงที่ผ่านมาได้ไต่ระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 86 เหรียญต่อตัน จากต้นปีอยู่ที่ระดับ 75 เหรียญต่อตัน โดยค่าเฉลี่ยถ่านหินในไตรมาสแรกอยู่ที่ระดับ 85 เหรียญต่อตัน
สาเหตุที่ทำให้ราคาถ่านหินขยับตัวในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะปริมาณความต้องการในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่ามาจาก 3 สาเหตุหลักๆ คือน้ำท่วมที่ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นแหล่งถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่สามารถที่จะขุดถ่านหินเพื่อนำออกมาจำหน่ายได้ ถัดมาคือการเกิดวิกฤตการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถเดินเครื่องได้ แต่โรงไฟฟ้าถ่านหินยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติซึ่งคาดการณ์ว่าอาจต้องทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้าทดแทนกำลังการผลิตที่หายไป และประเด็นสุดท้ายคือประเทศจีนจากเดิมที่เป็นผู้ส่งออกถ่านหินขณะนี้เปลี่ยนมาเป็นผู้นำเข้าเป็นอันดับ 2 ของโลก จึงทำให้ดีมานด์ถ่านหินในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นขณะที่ซัพพลายค่อนข้างจำกัด
“ต่อประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ประกอบการ ซึ่งในส่วนของ EARTH ทำให้มีความมั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นอย่างมาก โดยปี 2554 ได้วางเป้าหมายปริมาณจำหน่ายถ่านหินไว้ที่ระดับ 1.2 ล้านตัน คิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 40% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่มียอดจำหน่ายถ่านหินประมาณ 8 แสนตัน”
ทั้งนี้ ปริมาณจำหน่ายถ่านหินที่เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้ EARTH ได้รุกขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยบุกไปในโซนภาคกลางและภาคตะวันตก ซึ่งขณะนี้ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วและจะเริ่มจัดส่งถ่านหินให้กับลูกค้าได้ประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ ขณะเดียวกัน EARTH ก็ยังเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนมีแผนที่จะเปิดตลาดโดยตรง เนื่องจากในปัจจุบันจีนกลายเป็นตลาดที่สำคัญและมีกำลังซื้อมหาศาล
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงความต้องการใช้ถ่านหินว่าหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจถ่านหิน คือการมีซัพพลายที่แน่นอนและต่อเนื่อง นั่นหมายถึงการมีเหมืองเป็นของตนเอง ซึ่งจะทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงกว่าผู้ประกอบการที่ไม่มีเหมืองเป็นของตนเอง เพราะจะได้เปรียบในเรื่องต้นทุน การมีเหมืองถ่านหินเป็นของตนเองนั่นเป็นเป้าหมายในอนาคตของ EARTH เพระความต้องการใช้ถ่านหินยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดที่ญี่ปุ่นจะเป็นการส่งสัญญาณว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คงเกิดขึ้นได้ยากต่อไปในอนาคต นั่นหมายถึงสิ่งที่ทดแทนได้ดีที่สุดก็คือถ่านหินจึงเป็นโอกาสและความโชคดีของ EARTH ที่ได้อยู่ในธุรกิจถ่านหิน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : IR network
คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) e-mail : natsinee@irnetwork.co.th
คุณรจนา ใจดี (โรส) e-mail : rose_jaidee@hotmail.com