เมอร์คผนึกสมาคมโรคเบาหวานฯ จัดกิจกรรมใหญ่ต้าน “ภาวะก่อนเบาหวาน”

ข่าวทั่วไป Tuesday April 24, 2007 16:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
อุปนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยเผยคนไทยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและ “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” มากขึ้น เหตุเพราะสิ่งแวดล้อมและวีถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พบมีคนไทยเสี่ยงต่อภาวะก่อนเบาหวานมากกว่า10% ของประชากรและคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดเมอร์ค ประเทศไทยร่วมกับสมาคมโรคเบาหวานฯ จัดกิจกรรมเพื่อสังคม “เบาหวานห่างไกล ใส่ใจไปกับเมอร์ค” หวังรณรงค์ให้คนไทยห่วงใยสุขภาพและหันมาออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อลดอัตราการเกิดโรคเบาหวาน โดยเฉพาะ “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” ที่พบว่ากำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามคนทั่วโลก
ศ.พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทยและอุปนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและ “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” มากขึ้น เนื่องจากมีวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสหวานจัดและเค็มจัด รวมถึงคนยุคใหม่ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ซึ่งรวมถึง“ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” และโรคเบาหวานในที่สุด
ทั้งนี้หากจะกล่าวถึงโรคเบาหวานเชื่อได้ว่าคนส่วนใหญ่ทราบแล้วว่า โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ โดยสาเหตุของโรคเบาหวานเกิดจากการขาดอินซูลินหรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมกลไกต่างๆในการเผาผลาญสารอาหารได้ตามปกติ ขณะที่“ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก
“ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) คือ ภาวะที่เรายังไม่ได้เป็นเบาหวานจริงๆ แต่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติบางช่วงเวลา เช่น น้ำตาลสูงเฉพาะหลังรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถทดสอบได้ด้วยการดื่มสารละลายกลูโคส 75 กรัมแล้ววัดระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชม. หลังจากนั้น หากระดับน้ำตาลต่ำกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ถ้าระดับน้ำตาลอยู่ระหว่าง 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เรียกว่ามีความบกพร่องของความทนต่อน้ำตาล ซึ่งถือว่าเป็นภาวะก่อนเบาหวานแบบหนึ่ง ส่วนระดับน้ำตาลตั้งแต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ขึ้นไปนั้นอยู่ในเกณฑ์เป็นโรคเบาหวาน หรืออาจทดสอบด้วยการวัดระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร โดยคนปกติจะมีระดับน้ำตาลต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร คนที่มีระดับน้ำตาลอยู่ที่ 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร เรียกว่าระดับน้ำตาลขณะอดอาหารสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นภาวะก่อนเบาหวานอีกแบบหนึ่ง ส่วนคนที่ระดับน้ำตาลอยู่ที่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตรหรือมากกว่าจะอยู่ในเกณฑ์ว่าเป็นโรคเบาหวาน” ศ.พญ.วรรณี กล่าว
สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงของ “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)” ได้แก่ คนสูงอายุ ผู้ที่มีคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อ แม่ พี่ หรือน้องเป็นเบาหวาน คนอ้วน การรับประทานอาหารไม่เหมาะสม ผู้ที่เข้าข่ายว่าเป็น “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)”จะไม่มีอาการแสดงออกใดๆ
ทั้งนี้หากเข้าข่ายว่าอยู่ในระยะ “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)”แล้วก็ไม่ต้องวิตกว่าจะต้องเป็นโรคเบาหวานเสมอไป การป้องกันไม่ให้พัฒนาต่อไปเป็นเบาหวานนั้นจะขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันของแต่ละคน หากมีการรักษาสุขภาพได้ดีโรคเบาหวานก็จะห่างไกลไม่มาเยือน แต่หากไม่ดูแลรักษาตัวเองก็มีความเป็นไปได้ที่โรคเบาหวาน รวมถึงโรคร้ายอื่นๆ จะตามมาด้วย
จากข้อมูลล่าสุดพบว่า มีคนไทยเสี่ยงต่อภาวะก่อนเบาหวานมากกว่า10% ของประชากรและคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะที่ตัวเลขทั่วโลกพบว่ามีมากกว่า 10-30% โดยผู้ที่มีอายุมากจะมีแนวโน้มที่สูงกว่าคนอายุน้อย
สำหรับแนวทางป้องกันเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เกิด “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)“ นั้น ต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารรสหวานจัด เค็มจัด ของทอด ให้รับประทานผักมากๆ และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ เช่น การออกกำลังกายวันละ 1 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที หรือ การเดินเร็ววันละ 30 นาที หรือเดินสัปดาห์ละ 150 นาทีขึ้นไป เพื่อที่ร่างกายจะได้เผาผลาญพลังงานออกไป นอกจากนี้การทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันก็ช่วยได้ เช่น การถูบ้าน หรือการล้างรถ เป็นต้น
นายปัญญา กิจเจริญการกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเวชภัณฑ์ของบริษัท เมอร์ค จำกัด เปิดเผยว่า เมอร์ค ประเทศไทยตระหนักถึงสภาวการณ์อันน่ากลัวของ “ภาวะก่อนเบาหวาน(Prediabetes)“ และโรคเบาหวาน จึงได้ร่วมมือกับสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมครั้งใหญ่ในรอบปีขึ้น ภายใต้ชื่องาน “เบาหวานห่างไกล ใส่ใจไปกับเมอร์ค” โดยมีแนวคิด “ออกกำลังกายวันละ 1 กิโลเมตร ช่วยต้านเบาหวานได้” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของเมอร์คในการทำตลาดยารักษาโรคเบาหวาน และต้องการรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสุขภาพและหันมาออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) ซึ่งปัจจุบันเป็นภัยเงียบร้ายแรงที่สามารถคร่าชีวิตคนจำนวนมาก
ไฮไลท์ของงานมีการให้ความรู้เรื่องภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) ไม่ว่าจะเป็นอาการ การรักษาและป้องกันอย่างถูกวิธี โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ การบริโภคอย่างถูกวิธี การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและ การรักษาด้วยยา เพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวาน พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆมากมายสำหรับผู้ใส่ใจรักษาสุขภาพ อาทิ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด 200 ท่านแรกฟรี การเสวนาพิเศษเรื่อง “ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)... ภัยเงียบใกล้ตัว” นำโดย ศ.พญ.วรรณี นิธิยานันท์ นายกสมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย และอุปนายกสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย และคุณปัญญา กิจเจริญการกุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเวชภัณฑ์ของบริษัท เมอร์ค จำกัด ร่วมด้วย คุณพล ตัณฑเสถียร นักแสดง/ พิธีกร และคุณเนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ นักแสดงชื่อดัง อีกทั้งกิจกรรมวอล์คแรลลี่ต้านเบาหวานกับดาราคนดัง และการสาธิตเมนูเด็ดต้านเบาหวานจากคุณพล ตัณฑเสถียร งานนี้จัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 20 เมษายน เวลา 15.00น. ที่ชั้น 1 แฟชั่นแกลลอรี่ 2 สยามพารากอน (บริเวณหน้าร้าน MNG)
เกี่ยวกับเมอร์ค ประเทศไทย
เมอร์ค ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจเวชภัณฑ์และเคมีภัณฑ์ มีลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ โรงพยาบาล สถาบัน และอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย เมอร์ค เป็นบริษัทที่เน้นในเรื่องของความเอาใจใส่เป็นหลักในการทำธุรกิจ และให้ความสำคัญกับผู้มีบทบาทสำคัญของบริษัท 4 กลุ่มหลัก อันได้แก่ พนักงาน ลูกค้า สังคมไทย และผู้ถือหุ้น ก่อตั้งในประเทศไทย เมื่อปี 1991 ในรูปแบบบริษัทร่วมทุนระหว่าง Merck KGaA (เยอรมนี) และบี กริม (ประเทศไทย) เมอร์ค ประเทศไทย มีพนักงานทั้งหมดกว่า 150 คน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยมีศูนย์กระจายสินค้าตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู
เมื่อย้อนไป 339 ปีที่ผ่านมา บริษัท Merck KGaA ได้ก่อตั้งขึ้นในดาร์มชตัทประเทศเยอรมนี เมื่อธุรกิจเวชภัณฑ์มีการเจริญเติบโตขึ้น บริษัทได้ทำการขยายสาขาไปที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ต่อมาในปี ค.ศ. 1891 สาขาที่นิวยอร์คนี้ได้ถูกยึดโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และในปี ค.ศ. 1917 บริษัท Merck & Co. ในนิวยอร์กนี้ได้แยกเป็นบริษัทอิสระ นับตั้งแต่นั้นมาทั้งสองบริษัทจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่ก็ยังคงใช้ชื่อ Merck เหมือนกัน โดยที่ Merck KGaA แห่งเยอรมนี ได้รับสิทธิในทางกฎหมายในการใช้ชื่อ Merck ได้ทั่วโลกยกเว้นเพียงในประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ส่วน Merck & Co. แห่งสหรัฐฯ จะสามารถใช้ชื่อนี้ได้ในทวีปอเมริกาเหนือเท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Merck แห่งเยอรมนี สามารถค้นหาได้ที่ www.merck.de
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์:
- ศรุตยา มหากายี (รสวันต์ ดวงสร้อยทอง-โอ๋) โทร.0-2204-8224, 089-665-6819
- วรญา มณีวรรณ (เพชร) โทร. 0-2204-8229, 084-004-0636
- พรชนันท์ มงคลกุล (กิฟท์) โทร.0-2204-8223, 081-755-1105
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ