กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--แฟรนคอม เอเซีย
หัวเว่ยประกาศผลประกอบการประจำปี 2553 เผยยอดขายรวมมูลค่าราว 8.5 แสนล้านบาท (28.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 24.2 ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่อัตราร้อยละ 30 หรือเท่ากับราว 1.1 แสนล้านบาท (3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ส่วนอัตราผลกำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 12.3 รายงานผลประกอบการฉบับนี้ได้ผ่านการตรวจสอบโดยละเอียดจากบริษัท KPMG เรียบร้อยแล้ว
ผลประกอบการของหัวเว่ยในปี 2553 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดนอกประเทศจีน ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจหลักทั้งสามกลุ่ม อันได้แก่กลุ่มอุปกรณ์เครือข่าย กลุ่มบริการ และกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร ตลอดปี 2553 หัวเว่ยได้ร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก วางระบบเครือข่ายด้วยเทคโนโลยี SingleRAN รวมกว่า 80 เครือข่าย โดยในจำนวนนี้ มีเครือข่าย LTE รวมอยู่ด้วยถึง 28 เครือข่าย นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้ส่งมอบอุปกรณ์สื่อสารรูปแบบต่างๆ ให้แก่ลูกค้าเป็นจำนวนกว่า 120 ล้านเครื่อง
"ผู้ประกอบการทั่วโลกยังคงเลือกใช้อุปกรณ์และบริการของหัวเว่ย ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ ประยุกต์ใช้งานได้ง่าย และคุ้มค่าต่อการลงทุน" มร. เคน หู รองประธานของหัวเว่ยกล่าว "ส่วนแผนงานในอนาคตของบริษัทนั้น จะมุ่งเน้นไปที่การขยายตัวเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อลูกค้าธุรกิจ และกลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม"
ในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้เปิดตัวกลุ่มธุรกิจใหม่เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการวางโครงสร้างเครือข่าย ระบบโทรคมนาคมทั้งแบบมีสายและไร้สาย ศูนย์ข้อมูล และระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง โดยบริษัทมีแผนที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เริ่มต้นทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารงานภายในบริษัท เพื่อเสริมความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงต่อความต้องการของตลาดในทุกด้าน ภายใต้โครงสร้างใหม่นี้ กลุ่มธุรกิจหลักของหัวเว่ยทุกกลุ่มจะมีทีมผู้บริหารเป็นของตนเอง โดยผู้บริหารเหล่านี้จะปฎิบัติงานภายใต้การดูแลของประธานกรรมการบริหารและคณะกรรมการบริหารของบริษัท เพื่อให้มีการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารชุดปัจจุบันของบริษัท ประกอบไปด้วยผู้บริหารที่เพิ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในช่วงต้นปี 2554
สำหรับในประเทศไทยนั้น หัวเว่ยจะยังคงเดินหน้าทำธุรกิจ นำเสนอเทคโนโลยีโทรคมนาคมรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดย มร. โจ ติงฮุย รองกรรมการผู้จัดการบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า "ตลอดระยะเวลาที่หัวเว่ยดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เรามีความมุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับผู้ประกอบการโทรคมนาคมและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อนำเทคโนโลยีคุณภาพอย่าง 3G, LTE, FTTx, NGN และซอฟท์แวร์ต่างๆ มากมาย มาประยุกต์ใช้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการในไทยอย่างครบถ้วนทุกด้าน"
ผู้สนใจสามารถข้อมูลผลประกอบการโดยละเอียด บทวิเคราะห์สภาพตลาด ประวัติผู้บริหาร และข้อมูลเบื้องลึกอื่นๆ ได้ภายในรายงานผลประกอบการประจำปี 2554 ฉบับเต็ม ซึ่งสามารถอ่านได้ที่ http://www.huawei.com/ar2010
หมายเหตุ — อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐฯ เท่ากับ 30.03 บาท
ผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.huawei.com และติดตามข่าวคราวล่าสุดจากหัวเว่ยโดยตรงได้ทาง Twitter (www.twitter.com/huaweipress) และ YouTube (www.youtube.com/user/HuaweiPress)
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
ธรธวัช ทองแนบ
ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารหัวเว่ย
c/o แฟรนคอม เอเซีย
โทรศัพท์: 0 2233 4329-30 / โทรสาร: 0 2236 8030
อีเมล: pr@francomasia.com
บุศยรินทร์ เสตะจันทน์ปิติ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์: 0 2695 7400 ต่อ 5241 โทรสาร: 0 2654 3300
อีเมล: bussayarins@huawei.com