EMC เผยผลประกอบการไตรมาส 4 รวมทั้งตลอดปี 47

ข่าวทั่วไป Thursday February 3, 2005 17:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.พ.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
ขยายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ครองตำแหน่งผู้นำระบบขนาดกลาง รายได้เพิ่มขึ้นในอัตราเลข 2 หลักเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งสำหรับไตรมาสที่สี่ และผลประกอบการของปี 2548 โดยรายได้ของอีเอ็มซีเพิ่มขึ้นแบบปีต่อปีในอัตราเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่หกติดต่อกัน ทั้งนี้เป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย รวมถึงระบบจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย และส่วนงาน professional services ของอีเอ็มซี
รายได้รวมทั้งหมดของอีเอ็มซีสำหรับไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 2,360 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับยอดรายได้ 1,860 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2546 ส่วนกำไรสุทธิของไตรมาสที่สี่อยู่ที่ 321 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.13 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 220 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.09 ดอลลาร์ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2546
รายได้รวมทั้งหมดของอีเอ็มซีสำหรับปีงบประมาณ 2547 อยู่ที่ 8,230 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับตัวเลขรายได้ 6,240 ล้านดอลลาร์ของปีงบประมาณ 2546 ส่วนกำไรสุทธิสำหรับปีงบประมาณ 2547 อยู่ที่ 871 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับหุ้นละ 0.36 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 76 เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 496 ล้านดอลลาร์ หรือหุ้นละ 0.22 ดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2546
มร. โจ ทุซซี่ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของอีเอ็มซี กล่าวว่า “อีเอ็มซีมีผลประกอบการที่ดีเยี่ยมในช่วงปี 2547 โดยมีการเติบโตของรายได้ในอัตราเลขสองหลักเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ลูกค้าหันมาปรับใช้แนวทางการจัดการข้อมูลแบบครบวงจร (Information Lifecycle Management - ILM) กันมากขึ้น บุคลากร ผลิตภัณฑ์ และคู่ค้าของเราเป็นองค์กรประกอบสำคัญที่ทำให้เราเป็นผู้นำด้านการจัดหาระบบ ซอฟต์แวร์ บริการ และโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับการจัดการข้อมูลแบบครบวงจร”
“ปี 2547 นับเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับอีเอ็มซี” มร. ทุซซี่ กล่าวเสริม “เราสามารถขยายตลาดและความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในตลาดและภูมิภาคสำคัญๆ ทั้งยังได้พัฒนากลยุทธ์ ILM และโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงของวีเอ็มแวร์อย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2548 เรามีแผนที่จะขยายส่วนแบ่งในตลาดที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 51,000 ล้านดอลลาร์ โดยการนำเสนอนวัตกรรมและคุณประโยชน์เพิ่มเติมจากบริษัทที่เราเข้าซื้อกิจการ พร้อมทั้งขยายเครือข่ายคู่ค้าด้านช่องทางจัดจำหน่าย และเพิ่มระดับความพึงพอใจของลูกค้า”
รายได้หลักของอีเอ็มซีในช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2547 ซึ่งไม่รวมรายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับการเข้าซื้อกิจการของแดนซ์ (Dantz), ดอคคิวเมนตั้ม (Documentum), เลกาโต้ (Legato) และวีเอ็มแวร์ (VMware) เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ของปี 2546 รายได้ของอีเอ็มซีในภูมิภาคสำคัญๆ มีอัตราการเติบโตในระดับเลขสองหลัก โดยรายได้รวมจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในช่วงไตรมาสที่สี่
มร. บิล ทยูเบอร์ รองประธานกรรมการบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอีเอ็มซี กล่าวว่า “นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่เรามีผลประกอบการในส่วนหลักๆ สูงกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้เมื่อเดือนมกราคม ในช่วงที่ผ่านมาเราพยายามที่จะเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานให้อยู่ในช่วงประมาณร้อยละ 15 และในไตรมาสที่สี่เราก็สามารถทำได้สำเร็จ ส่วนเงินสดและเงินลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสดังกล่าว ในขณะที่เราพยายามใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งด้านการเงิน โดยการซื้อคืนหุ้นบริษัทจำนวน 128 ล้านดอลลาร์ และเข้าซื้อกิจการของแดนซ์ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ทั้งนี้งบดุลที่แข็งแกร่งของเราจะเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนการที่วางไว้”
รายละเอียดสำคัญสำหรับไตรมาสที่สี่
รายได้จากระบบสตอเรจเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยผลิตภัณฑ์ทุกประเภทมีการเติบโตปีต่อป การเติบโตของรายได้จากระบบสตอเรจ Symmetrix ของอีเอ็มซี เป็นเครื่องยืนยันว่าอีเอ็มซีสามารถขยายส่วนแบ่งในตลาดไฮเอนด์ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่สี่ เมื่อเปรียบเทียบปีต่อปีแล้วจะพบว่ารายได้จากระบบสตอเรจ CLARiiON เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 โดยเป็นผลมาจากการที่องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้ความนิยมในผลิตภัณฑ์ CLARiiON ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลายและมีระดับราคาไม่แพงจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ CLARiiON Disk Library (CDL) ซึ่งมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากลูกค้าหันมาปรับใช้โซลูชั่นการสำรองข้อมูลบนดิสก์ของอีเอ็มซีเพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการกู้คืนข้อมูล ผลิตภัณฑ์ Celerra NAS (networked attached storage) และ Centera CAS (content addressed storage) ของอีเอ็มซี ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในตลาด โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้แบบปีต่อปีที่แข็งแกร่งในระดับเลขสองหลัก ในขณะที่ Centera สามารถทำสถิติการเติบโตรายไตรมาสสูงสุดร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
รายได้รวมจากซอฟต์แวร์ในช่วงไตรมาสที่สี่เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเป็นผลมาจากการเข้าซื้อกิจการของแดนซ์, ดอคคิวเมนตั้ม, เลกาโต้ และวีเอ็มแวร์ ส่วนยอดขายซอฟต์แวร์หลักๆ ของอีเอ็มซีเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนในอัตราร้อยละ 26
กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซีมีรายได้รวม 410 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากไตรมาสที่สามของปี 2547 โดยผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์สามารถทำสถิติรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสดังกล่าว และมีการเติบโตของรายได้ในอัตราเลขสองหลักสำหรับผลิตภัณฑ์ที่รองรับหลายแพลตฟอร์มของอีเอ็มซี รวมถึงผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของดอคคิวเมนตั้มและเลกาโต้ กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซีสามารถสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยอาศัยผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ในตระกูล EMC Legato NetWorker, EMC Documentum Enterprise Content Management Platforms และ EMC ControlCenter
วีเอ็มแวร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอีเอ็มซี สามารถทำรายได้รายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 71 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สี่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 159 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2546 การเติบโตแบบก้าวกระโดดของวีเอ็มแวร์ในครั้งนี้เป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ในส่วนของผลิตภัณฑ์ระดับองค์กร เช่น VMware ESX Server และ VMware Virtual Center
รายได้จากบริการของอีเอ็มซีเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่สี่ของปี 2546 โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัทซอฟต์แวร์ รายได้ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ และความต้องการของลูกค้าสำหรับความช่วยเหลือในการปรับใช้แนวทางการจัดการข้อมูลแบบครบวงจร
“เราเชื่อว่าการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เรามีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในธุรกิจหลักๆ ในช่วงไตรมาสที่สี่” มร. ทุซซี่ กล่าว “การเติบโตของแต่ละแพลตฟอร์มเป็นผลมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นในระบบสตอเรจขนาดกลาง และความเป็นผู้นำของระบบสตอเรจระดับไฮเอนด์ในตระกูล Symmetrix ซึ่งสามารถทำสถิติรายได้รายไตรมาสสูงสุดในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา การที่อีเอ็มซีเข้าซื้อกิจการของบริษัทต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องในตลาด โดยโซลูชั่นจากเลกาโต้และดอคคิวเมนตั้มสามารถทำรายได้รายไตรมาสสูงกว่า 100 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก และวีเอ็มแวร์ยังคงรักษาอัตราการเติบโตในระดับเลขสามหลักเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกันในฐานะบริษัทในเครือของอีเอ็มซี
รายละเอียดสำคัญสำหรับปี 2547
รายได้ของอีเอ็มซีมีการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจหลักๆ ในช่วงปี 2547 โดยในส่วนของระบบฮาร์ดแวร์มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ซึ่งเป็นผลมาจากส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นของ Symmetrix ในตลาดไฮเอนด์ และการทำสถิติสูงสุดของผลิตภัณฑ์ในตระกูล CLARiiON ซึ่งพลิกโฉมหน้าของตลาดสตอเรจขนาดกลางในช่วงปี 2547
รายได้รวมจากซอฟต์แวร์ ทั้งในส่วนของรายได้จากลิขสิทธิ์และบริการบำรุงรักษา เพิ่มเป็น 2,980 ล้านดอลลาร์ โดยคิดเป็นกว่าหนึ่งในสามของรายได้รวมทั้งหมดในปี 2547 ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลประกอบการที่โดดเด่นของบริษัทซอฟต์แวร์ที่อีเอ็มซีได้เข้าซื้อกิจการเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวีเอ็มแวร์ ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในช่วงปี 2547 โดยนับเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพที่แข็งแกร่งของวีเอ็มแวร์ในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด เมื่อเทียบกับบริษัทซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
รายได้จากบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 44 ในปี 2547 เนื่องจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับงาน professional services และการเพิ่มขึ้นของรายได้ในส่วนของการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์
รายได้รวมจากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 39 ในปี 2547 โดยเป็นผลมาจากการเติบโตในอัตราเลขสองหลักในยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกา ทั้งนี้รายได้จากต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 42 ของรายได้รวมในปี 2547 เมื่อเทียบกับอัตราร้อยละ 40 ในปี 2546
การคาดการณ์เกี่ยวกับธุรกิจ
คำแถลงด้านล่างนี้เป็นข้อมูลการคาดการณ์ที่อ้างอิงสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน โดยเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจจะคลาดเคลื่อนไปจากที่คาดการณ์ไว้ ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงผลกระทบจากการกระจายสิทธิ์ในการจองซื้อหุ้นภายใต้แถลงการณ์ 123R ของคณะกรรมการมาตรฐานการเงินการบัญชี (Financial Accounting Standards Board) (FAS 123R) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังวันที่ 15 มิถุนายน 25481 หรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการควบรวมกิจการ การเข้าซื้อกิจการ การขายกิจการ หรือการผนวกรวมธุรกิจใดๆ ที่อาจเสร็จสิ้นในภายหลัง คำแถลงนี้ใช้แทนข้อมูลคาดการณ์ทางธุรกิจทั้งหมดที่ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของอีเอ็มซี
ไตรมาสแรกของปี 2548
- คาดว่ารายได้รวมสำหรับไตรมาสแรกของปี 2548 จะอยู่ที่ 2,230-2,250 ล้านดอลลาร์โดยประมาณ
- กำไรต่อหุ้นสำหรับไตรมาสแรกของปี 2548 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.10-0.11 ดอลลาร์
ตลอดปี 2548
- รายได้รวมสำหรับปี 2548 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของตลาด 2 เท่า ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7-8 ผลกระทบในแง่บวกของการเข้าซื้อกิจการของ SMARTS ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลได้ในช่วงไตรมาสแรก จะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตของอีเอ็มซีในปี 2548
- กำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 52 สำหรับช่วงปีนี้ โดยมีการผันผวนเล็กน้อยตามปกติในช่วงแต่ละไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของอีเอ็มซีในบางตลาด สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง และต้นทุนในระบบซัพพลายเชน
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการขายและบริหาร และค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา) เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ น่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ 35.5-37.0 สำหรับปี 2548
- รายได้จากการประกอบการ เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ น่าจะอยู่ในช่วงเกือบร้อยละ 20 สำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2548
- อัตราภาษีเงินได้ เมื่อเทียบเป็นร้อยละของรายได้ก่อนหักภาษี คาดว่าจะอยู่ในช่วงประมาณร้อยละ 28 สำหรับปี 2548
- กำไรต่อหุ้นสำหรับปี 2548 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.47-0.51 ดอลลาร์
เกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
1As a result of excluding stock option expense, certain numbers presented in our Business Outlook may constitute non-GAAP financial measures. EMC is unable to provide a quantitative reconciliation of such forward-looking measures to GAAP because EMC is currently in the process of assessing its implementation of FAS 123R and, therefore, the amount of stock option expense is unknown at this time. However, expensing of stock options would increase expenses, including cost of product sales, cost of services, research and development expenses and selling, general and administrative expenses, would decrease gross margins, operating income, net income and diluted earnings per share, and would affect the income tax rate.
EMC, Dantz, Documentum, Legato and VMware are registered trademarks, and EMC Symmetrix, EMC CLARiiON, EMC Centera and EMC Celerra are trademarks of EMC Corporation. All other trademarks are the property of their respective owners.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Khoo Yin
Senior Marcom Specialist
EMC South Asia
Tel: +65-6427-1741
Fax: +65-6333-6878
Email: khoo_yin@emc.com
Local PR agency contact
เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
โทร: 0-2971-3711
โทรสาร: 0-2521-9030
อีเมล์: maythavee@pc-a.co.th--จบ--

แท็ก อีเอ็มซี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ