สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 25, 2011 10:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ทิศทางราคาทองคำ ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1504 เหรียญ ค่าเงินบาท 29.94 บาท/ดอลลาร์ กับ 29.97 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 21250 บาท กับ 21350 บาท GFJ11 เปิดที่ 21380 บาท และ GFM11 เปิดที่ 21420 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 21380 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 21420 บาท SPDR ถือครอง 1229.64 ตัน น้ำมันปิดที่ระดับ 112.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดที่ระดับ 12505.99 จุดในวันศุกร์มีตลาด Tocom เปิดเพียงตลาดเดียว มีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ช่วงท้ายตลาด Tocom ราคาเริ่มขยับขึ้นมาที่ระดับ 1508 เหรียญ มีปริมาณการซื้อขายเบาบางในตลาดเมืองไทย ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 1253 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 1671 คู่สัญญา OI แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1 % และ 10 บาท ลดลง 0.87 % โดยที่ในคืนวันศุกร์ไม่มีข่าวใดๆเนื่องจากเป็นวันหยุดในเทศกาลอีสเตอร์ สิ่งที่สำคัญก็คือตลาดรอความชัดเจนของการแถลงที่จะมีขึ้นในคืนวันพุธหลังจากที่ FED จะมีการประชุม 2 วันคือ อังคารและพุธนี้ และคาดว่าจะมีการแถลงนโยบายของอัตราดอกเบี้ยเพื่อความชัดเจนซึ่งจะเป็นเวลาประมาณตีหนึ่งของวันพฤหัส ซึ่งถ้า Sentiment ออกมาไม่ดี ไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยและยังคงรักษามาตรการ QE2 ไว้ ก็จะทำให้เป็นผลบวกต่อทองคำและมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง ในตลาดบ้านเราค่าเงินบาทเองมีการแกว่งตัวและอยู่ในทิศทางแข็งค่า ณ ขณะนี้อยู่ที่ 29.92 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทได้รับความกดดันจากเงินทุนไหลเข้าจาก QE 2 และเงินทุนที่ไหลเข้าก็อาจจะทำกำไรได้ 3 ทาง คือ 1.กำไรจากตลาดหุ้น ที่จะทยอยประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส1 ซึ่งคาดว่าจะออกมาดี 2. กำไรจากอัตราดอกเบี้ย 3. กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ภาพรวมของราคาน้ำมันยังเป็นทิศทางขาขึ้นโดยประเมินจากนักวิเคราะห์11ราย โดย CNBC ปรากฏว่านักวิเคราะห์ทั้ง 10 รายคิดว่าราคาน้ำมันจะขึ้นต่อ มีเพียง 1 รายที่ไม่ได้แสดงว่าคิดเห็น น้ำมันจะเป็นตัวหนึ่งที่ส่งเสริมราคาทองคำ สำหรับตลาด Electronic ของอเมริกาโดยภาพรวมทั่วไปก็ยังเป็นเรื่องของการไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร หลังจากใช้มาตรการ QE2 มาแล้วกว่า 3 เดือน โดยที่ล่าสุด S&P ปรับเป็น negative outlook กับภาวะหนี้สินของอเมริกา ปัญหาของยุโรปเองก็ยังไม่จบสิ้น แต่ว่าตลาดยังมองว่ายุโรปยังมีโอกาสที่จะปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก ในขณะที่ USD Index ยังปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 74.10 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่ปี 2008 ที่เกิด Financial Crisis ในอเมริกา โดยค่าเงินดอลลาร์อยู่ที่ระดับ 1.4547 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 82.45 เยน/ดอลลาร์ วิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาทองคำเช้านี้ยังวิ่งขึ้นต่อเนื่องทะลุระดับ 1510 เหรียญ ขึ้นไป ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1512 เหรียญ เงินบาทอยู่ที่ 29.92 บาท/ดอลลาร์ ตลาดยังเชื่อว่ายังเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยที่ในส่วนใหญ่จะรอความชัดเจนของการประชุม Fed ที่จะมีการแถลงในคืนวันพฤหัสบดี ทองคำจะมีแนวต้านทางจิตวิทยา ที่ระดับ 1520 เหรียญ และแนวรับ 1495 เหรียญ Oscillator โดยทั่วไปยังไม่บ่งบอกสัญญาณใดๆและยังไม่มีสัญญาณของการ U-Turn และยังเป็นทิศทางบวก Silver อยู่ที่ระดับ 46.78 เหรียญ เป้าหมายทางจิตวิทยาอยู่ที่ 50 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 21300 บาท และ 21400 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1509 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 21250 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 21500 บาท Gold Futures J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 21370 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21500 บาท และ Series J จะหมดอายุใน 3 วัน ขอให้นักลงทุนที่ต้องการต่ออายุให้ปิดและเปิดใน Series M สำหรับนักลงทุนที่ยังถือ Short Position Series J อยู่ ก็ยังแนะนำว่าควรที่จะมีกลยุทธ์ในการตัดขาดทุนบ้าง เนื่องจากตลาดยังดูเป็นทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง ฉะนั้นคงต้องศึกษาดูให้ดี เพราะว่ายิ่งถ้าคืนวันพุธ sentiment ออกมาไม่ดี ในคืนวันพฤหัสมีโอกาสจะปรับสูงขึ้น ซึ่งเราเองแนะนำให้ cut loss ไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ระดับ 1450 เหรียญ ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากไม่ได้ cut loss ตั้งแต่ต้น การ cut loss บริเวณนี้ค่อนข้างยาก ฉะนั้นจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการบริหารพอร์ตให้เหมาะสมกับกำลังเงินให้ชัดเจน อย่างน้อยที่สุดก็อาจจะต้องตัดขาดทุนเพียงบางส่วนและพยายามบริหารต่อ และไม่แนะนำให้ short เพิ่ม คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade):เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว คาดว่าจะเคลื่อนตัวในช่วง 1505-1515 เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade):ยังเป็นการรอจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ไม่แนะนำให้ทำ short นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง:เทขายทำกำไรจนหมด และรอความชัดเจนของตลาด สรุปได้ว่านักลงทุนที่เป็น Long Position ก็ควรทำกำไรบางส่วน นักลงทุนที่เป็น Short Position คงต้องบริหารพอร์ตให้ดีในช่วงภาวะแบบนี้ ซึ่งยังแนะนำให้ปรึกษากับ Marketing ของท่านอย่างใกล้ชิด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ