ปี 2549 บจ. mai จ่ายปันผลแล้ว 1,187 ล้านบาท เผยเร่งจ่ายปันผลระหว่างกาลหวังดึงนักลงทุนระยะยาว

ข่าวทั่วไป Monday April 9, 2007 10:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--ตลท.
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai 33 ราย จากทั้งหมด 43 ราย ประกาศจ่ายปันผลประจำปี 2549 ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยมีมูลค่าเงินปันผลรวมกันสูงถึง 1,187 ล้านบาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลร้อยละ 6.5 นำโดย ยูนิมิต เอ็นจิเนียริ่ง (UEC) ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) และ ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) ให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น สูงสุด
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่า “บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 2549 มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,187 ล้านบาท ทั้งนี้หากคิดมูลค่าเงินปันผลรวมเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิรวมเฉพาะของ 33 บริษัทที่ประกาศจ่ายปันผล ซึ่งมีมูลค่า 2,111 ล้านบาท จะพบว่ามูลค่าเงินปันผลรวมจ่ายสูงถึงร้อยละ 56 ของกำไรสุทธิดังกล่าว ทั้งนี้มีบริษัทที่ประกาศจ่ายปันผลทั้งหมด 33 ราย คิดเป็นร้อยละ 77 ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนใน mai ทั้งหมด และเมื่อคิดเงินปันผลเทียบกับราคาหลักทรัพย์แล้ว จะเห็นว่าอัตราส่วนเงินปันผล ตอบแทน (Dividend Yield) ของหลักทรัพย์ใน mai สูงถึงร้อยละ 6.5”
ทั้งนี้หากพิจารณามูลค่าเงินปันผลที่จ่ายจะพบว่า บริษัทใน mai ที่จ่ายเงินปันผลสูงสุดคือ บมจ. ยูนิมิต เอ็นจิเนียริ่ง (UEC) โดยจ่ายเงินปันผลประจำปี 2549 จำนวน 2 ครั้งคือ เงินปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท และ เงินปันผลสิ้นงวดในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท จึงรวมเป็นเงินปันผลปี 2549 ทั้งสิ้น หุ้นละ 1.20 บาท หรือรวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 171.60 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลร้อยละ 7.89 ณ ราคาก่อนการขึ้นเครื่องหมายปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล
บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) จ่ายเงินปันผลประจำปี 2549 จำนวน 2 ครั้งคือเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตรา หุ้นละ 1.00 บาท และเงินปันผลสิ้นงวดในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท จึงรวมเป็นเงินปันผลปี 2549 ทั้งสิ้น หุ้นละ 1.50 บาท หรือรวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 105 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลร้อยละ 8.52 ณ ราคา ก่อนการขึ้นเครื่องหมายปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล
ตามด้วย บมจ. ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเม้นท์ (L&E) ซึ่งนอกจะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.37 บาทต่อหุ้นแล้ว ยังให้ ผลตอบแทนในลักษณะหุ้นปันผลอีกด้วย กล่าวคือ จ่ายเป็นหุ้นปันผลในสัดส่วน 3 หุ้นสามัญเดิมต่อ 2 หุ้นปันผล คิดเป็น อัตราจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นเท่ากับ 3.33 บาท รวมมูลค่าเงินปันผลและหุ้นปันผลหุ้นละ 3.70 บาท มูลค่ารวมเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 101.85 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลร้อยละ 12.35 ณ ราคาก่อนการขึ้นเครื่องหมายปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล
“ในปี 2549 ที่ผ่านมา มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ถึง 9 บริษัท ที่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล ซึ่งเป็นการจูงใจให้นักลงทุนหันมาลงทุนหุ้นในระยะยาวมากขึ้น และ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันหลายบริษัทจะทยอยขึ้นเครื่องหมายปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลแล้ว (XD) แต่ยังมีอีก 9 บริษัท ที่หากนักลงทุนซื้อหุ้นวันนี้ ยังมีสิทธิได้รับเงินปันผลอีกด้วย ซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ณ ปัจจุบันที่อัตราประมาณร้อยละ 3 แล้ว ยังถือว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ยังคงให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ” นายชนิตร กล่าวสรุป
ตลาดหลักทรัพย์ mai ปัจจุบันมีหลักทรัพย์จดทะเบียน 43 หลักทรัพย์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ mai ณ วันที่ 30 มีนาคม 2550 ปิดที่ 194.96 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยกว่า 203 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดกว่า 22,301 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ