กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--IR network
“สาทิส ตัตวธร” เผยภาพรวมเครือ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม หรือ SALEE โค้งแรกปีนี้ยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจ”พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง” ที่มีออเดอร์เข้ามาอย่างล้นหลามผลิตแทบไม่ทัน ได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัว มั่นใจดันเป้ารายได้ปี 2554 เติบโต 30% จากปีที่ผ่านมา ด้านผู้ถือหุ้นยิ้มรับการอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 20พฤษภาคม 2554
นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทช่วงไตรมาส 1/54 ว่ายังคงขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัว ทำให้ความต้องการในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภค บริโภค รวมถึงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งมีผลทำให้ความต้องการสินค้าจากลูกค้าของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมาจากทั้งของ บมจ.
สาลี่อุตสาหกรรม และบริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้งจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ
"ในปีที่ผ่านมา พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง ได้ติดตั้งเครื่องจักรใหม่ไปแล้วจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะติดตั้งเพิ่มอีกจำนวน 2 เครื่อง โดยจะเห็นได้ว่าช่วงนี้ออเดอร์จากลูกค้ามีเข้ามาจำนวนมากจนผลิตแทบไม่ทัน จึงจำเป็นต้องนำเครื่องจักรส่งผ่านทางเครื่องบินแทนการนำส่งทางเรือ เพื่อให้ถึงประเทศไทยเร็วที่สุด ด้านสาลี่ อุตสาหกรรม มีแผนซื้อเครื่องจักรใหม่เพิ่มจำนวน 7 เครื่องทดแทนเครื่องจักเก่าบางส่วน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรวมถึงย่นระยะเวลาและสามารถบริหารเรื่องต้นทุนให้ดีขึ้น"
ทั้งนี้จากธุรกิจทั้งในส่วนของ สาลี่อุตสาหกรรม และ พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี จึงมั่นใจว่ารายได้ของบริษัทและบริษัทในเครือในปี 2554 จะเติบโตตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ที่ 900-1,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปี 2553 ตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น และในปีนี้บริษัทได้จัดเตรียมงบลงทุนประมาณ 100-150 ล้านบาท สำหรับใช้ในการซื้อเครื่องจักรใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30% รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2553 และจากกำไรสะสมของบริษัท ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท (สามสิบสตางค์) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2554 (Record Date) และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 พฤษภาคม 2554