ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 26, 2011 10:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 21,200 - 21,300 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,498.10 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.96 — 29.99 - GFJ11 Hi- Low 21,620 — 21,500 ปิดที่ 21,600 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 5.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1509.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,502.20-1,519.20 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.090 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 47.149 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮอีกครั้ง เพราะได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และความต้องการทองคำที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงจีนและอินเดีย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลบ 26.11 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 12,479.88 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.13 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 1,335.25 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดขยับขึ้น 5.72 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 2,825.88 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ หลังจากบริษัทคิมเบอร์ลี-คล้ากเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำเกินคาดและยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 112.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกกลาง กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 26 เมษายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1229.64ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันพุธนี้ พร้อมประกาศเดินหน้าโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ไปจนจบโครงการในช่วงกลางปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุมครั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.12% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4572 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4555 ดอลล่าร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4526 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.72 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 81.83 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.77 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.91-29.94 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.96-29.99 บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.1% จากเดือนก.พ. สู่ระดับ 300,000 ยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 280,000 ยูนิตต่อปี หลังจากที่ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลงติดต่อกันในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น - มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนวันพุธที่ 27 เม.ย.ตามเวลาประเทศไทย และจะประกาศเดินหน้าโครงการ QE2 หรือโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ไปจนจบโครงการในช่วงกลางปีนี้ แต่การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้สภาพคล่องในระบบการเงินสูงขึ้นและทำให้มูลค่าสกุลเงินดอลลาร์อ่อนแอลง ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยเฉพาะสกุลเงินของประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสหรัฐ - นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า คณะกรรมการเฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะรีบเร่งคุมเข้มนโยบายทางการเงิน เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า เฟดจะยังคงรักษาขนาดของงบดุลบัญชีไว้ที่ระดับเดิมภายหลังเดือนมิ.ย. โดยใช้วิธีนำเงินที่ได้รับจากสินทรัพย์ที่ครบกำหนดไถ่ถอนมาลงทุนใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้งบดุลมีขนาดลดลง และมีความเป็นไปได้อย่างมากว่า คณะกรรมการเฟดจะหารือประเด็นนี้ในการประชุมวันที่ 26-27 เม.ย. โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการคุมเข้มนโยบายในอนาคต ซึ่งรวมถึงเรื่องที่ว่าเฟดควรขายสินทรัพย์ก่อนขึ้นดอกเบี้ย หรือควรขึ้นดอกเบี้ยก่อนขายสินทรัพย์ - นักลงทุนจับตาดูการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของเบอร์นันเก้ ประธานเฟด ซึ่งจะมีขึ้นภายหลังการประชุมวันที่ 27 เม.ย.นี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปีที่ประธานเฟดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ซึ่งการตัดสินในครั้งนี้จะทำให้เบอร์นันเก้มีโอกาสสื่อสารกับประชาชนและตลาดการเงินได้ดียิ่งขึ้นในเรื่องที่ว่า เฟดตั้งใจจะใช้วิธีการใดในการกระตุ้นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและยับยั้งภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การแถลงข่าวในครั้งนี้จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของเฟดมีความโปร่งใสมากขึ้นด้วย - รายงานสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้คาดว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1% ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 25 - 26เมษายน2554 วัน ?New Home Sales 270K 280K 300K จันทร์ วัน ?S&P/CS Composite-20 HPI -3.1% -3.2% อังคาร ?CB Consumer Confidence 63.4 64.6

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ