สนพ. ระบุ ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด หรือ Peak ทำลายสถิติติดต่อกัน 4 ครั้งใน 4 วัน คาดว่า Peak ของปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 22,567 เมกะวัตต์

ข่าวทั่วไป Monday March 19, 2007 15:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--สนพ.
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กล่าวว่า การผลิตพลังงานไฟฟ้าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 22,110 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 2.6% โดยความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ทำลายสถิติ Peak เมื่อปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 21,064 เมกะวัตต์ จำนวน 4 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550 อยู่ที่ระดับ 21,318 เมกะวัตต์ ครั้งที่สอง (ครั้งสูงสุด) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2550 อยู่ที่ระดับ 21,375 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2550 อยู่ที่ระดับ 21,273 เมกะวัตต์ และครั้งที่สี่ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 21,366 เมกะวัตต์ โดยคาดว่า Peak ของปี 2550 จะสูงขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 22,567 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2550 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงสุด
ด้านราคาน้ำมันดิบดูไบและเบรนท์เดือนช่วงวันที่ 1-12 มีนาคมที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2550 2.99 และ 3.41 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ โดยน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ระดับ 58.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลและเบรนท์ อยู่ที่ระดับ 61.35 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดมองว่าสภาพเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และ IEA คาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2550 จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ของปี 2549 ประมาณ 2.7% จึงส่งผลให้สภาวะตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียปรับเพิ่มขึ้น จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อทำกำไรในตลาดล่วงหน้า
ทั้งนี้ ผลของราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทั้งเบนซินออกเทน 95 และ 92 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ย 1-15 มีนาคม 2550 อยู่ที่ระดับ 76.39 เหรียญฯ 74.85 เหรียญฯ และ 72.09 เหรียญฯ ตามลำดับ ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปซึ่งนอกจากราคาน้ำมันดิบแล้ว ยังเป็นผลจาก Reuter Polls ได้คาดการณ์ปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินอาจลดลง เพราะการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เกาหลีมีแผนงดส่งออกน้ำมันดีเซลในเดือนเมษายนเนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงประจำปี และโรงกลั่น SPRC ของไทยปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์
จำนวน 4 ครั้ง รวม 1.60 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 27.59 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ปรับขึ้นจำนวน 4 ครั้ง รวม 1.60 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 26.79 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ปรับขึ้นจำนวน 4 ครั้ง รวม 1.40 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 25.59 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ปรับขึ้นจำนวน 4 ครั้ง รวม 1.60 บาทต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 25.29 บาทต่อลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซล ปรับขึ้นจำนวน 2 ครั้ง รวม 80 สตางค์ต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 23.74 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 5(ไบโอดีเซล) ปรับขึ้นจำนวน 2 ครั้ง และลดลง 1 ครั้ง รวมเพิ่มขึ้น 20 สตางค์ต่อลิตร มาอยู่ที่ระดับ 23.04 บาทต่อลิตร
แนวโน้มราคาน้ำมันเดือนมีนาคม 2550 คาดว่าราคาน้ำมันยังคงผันผวน น้ำมันดิบดูไบและเบรนท์ จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 55-60 และ 58-63 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ และราคาน้ำมันในตลาดจรสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 68-75 และ 63-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากกรณีความตึงเครียดโครงการนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน ปัญหาก่อการร้ายในสามเหลี่ยมไนเจอร์ของไนจีเรีย การเริ่มสั่งซื้อน้ำมันเพื่อสำรองของประเทศต่างๆ เพื่อไว้ใช้สำหรับฤดูท่องเที่ยว รวมถึงการที่โรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ในเอเชียหันไปผลิต Naphtha มากขึ้นเพราะให้ผลตอบแทนดีกว่า
นอกจากนี้ราคา LPG ในเดือนมีนาคม 2550 ปรับตัวลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 20 เหรียญสหรัฐต่อตัน มาอยู่ที่ระดับ 506 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของภูมิภาคมีความต้องการใช้ลดลง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่หนาวมากในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา และคาดว่าราคา LPG ในเดือนเมษายน จะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 500-510 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยอยู่ที่ระดับ 1.72-1.74 บาทต่อกิโลกรัม คิดเป็นเงินชดเชยประมาณ 450 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกองทุนน้ำมันฯ มีรายได้จากการส่งออกก๊าซ LPG อยู่ที่ระดับ 3.06-3.23 บาทต่อกิโลกรัม หรือคิดเป็นเงินประมาณ 127-134 ล้านบาทต่อเดือน ณ อัตราแลกเปลี่ยน 35.82 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ด้านฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยอด ณ วันที่ 12 มีนาคม 2550 มีเงินสดสุทธิ 4,743 ล้านบาท โดยมีรายรับเดือนละ 4,313 ล้านบาท และรายจ่ายเดือนละ 4,294 ล้านบาท คิดเป็นรายรับมากกว่ารายจ่าย 19 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินค้างชำระ 38,055 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ