กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--ปตท.สผ.
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ทำกำไรได้กว่า 7,158 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 อีกทั้งได้ขยายการลงทุนใหม่ในประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ 11 ส่วนในสหภาพพม่า แปลง M9 ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะหลุมประเมินผล พบก๊าซฯ ในปริมาณสูง และจะเริ่มแผนงานเจาะสำรวจอีกครั้งปลายปีนี้ ด้านการพัฒนาแหล่งก๊าซฯอาทิตย์ ในอ่าวไทย ก้าวหน้าไปแล้ว 90% เตรียมพร้อมสำหรับเริ่มการผลิตในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
ผลประกอบการไตรมาสที่ 2
นายมารุต มฤคทัต (Maroot Mrigadat) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2550 มีกำไรสุทธิและรายได้รวมลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง
ในไตรมาสนี้ ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 7,158 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.17 บาท ลดลง 119 ล้านบาท หรือร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 7,277 ล้านบาท
สำหรับไตรมาสนี้ ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 22,961 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 23,688 ล้านบาท ลดลง 727 ล้านบาท หรือร้อยละ 3 สาเหตุหลักมาจากการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งอยู่ที่ 34.82 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ 38.37 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้ว่าราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของ ปตท.สผ. ในไตรมาสนี้จะสูงขึ้นเป็น 38.17 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จาก 37.61 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อีกทั้ง ปริมาณการขายในไตรมาสนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 179,180 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จาก 171,662 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ได้คงผลให้รายได้ของ ปตท.สผ. ซึ่งเมื่อแปลงค่าจากเงินเหรียญสหรัฐฯเป็นเงินบาทลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้น มีผลกระทบในทางบัญชีเท่านั้น แต่มิได้มีผลกระทบต่อการประกอบการของ ปตท.สผ. มากนัก เนื่องจาก ปตท.สผ. มีรายได้และค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ อยู่แล้ว
สำหรับฐานะการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 173,604 ล้านบาท เพิ่มจากสิ้นปีก่อนจำนวน 15,791 ล้านบาท หรือร้อยละ 10 เนื่องจากรายการเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น สินทรัพย์สุทธิเพื่อการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในสินทรัพย์เพื่อการผลิตของโครงการอาทิตย์ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และโครงการพม่า M7&M9
ปตท.สผ. เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผลในแปลง M9 เตรียมประเมินปริมาณสำรองขั้นต้น
ปตท.สผ. ได้เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผลในแปลง M9 ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวเมาะตะมะ สหภาพพม่า โดยได้ทำการขุดเจาะตั้งแต่เดือนพฤษภาคม — กรกฎาคม 2550 พบก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่น่าพอใจทั้ง 5 หลุม ได้แก่ หลุมซอว์ติกะ-3 (Zawtika-3), หลุมซอว์ติกะ-4 (Zawtika-4), หลุมกากอนนะ-2 (Kakonna-2), หลุมซอว์ติกะ-5 (Zawtika-5) และหลุมซอว์ติกะ-6 (Zawtika-6) สำหรับแผนงานต่อไป ปตท.สผ. จะเริ่มการขุดเจาะหลุมสำรวจและหลุมประเมินผลในโครงสร้างใหม่ในเดือนธันวาคมนี้ อีกประมาณ 4 หลุม เพื่อพิสูจน์ศักยภาพของปริมาณก๊าซธรรมชาติในโครงสร้างใหม่ของแปลง M9 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2551 ในขณะเดียวกัน ปตท.สผ. จะทำการประเมินปริมาณสำรองปิโตรเลียมขั้นต้นในโครงสร้างเดิมซึ่งได้ทำการสำรวจเสร็จสิ้นไปแล้ว และจะเริ่มวางแผนการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติในแปลง M9 โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มการผลิตก๊าซฯ เพื่อใช้ในประเทศพม่าส่วนหนึ่ง และส่งเข้าประเทศไทยส่วนหนึ่งในปี 2554 หรือ 2555
ปตท.สผ. ขยายการลงทุนสู่ในนิวซีแลนด์ ได้รับสัมปทานปิโตรเลียม 6 แปลง
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2550 ปตท.สผ. และกลุ่มผู้ร่วมประมูล ซึ่งประกอบด้วยบริษัท OMV New Zealand Limited และบริษัท Mitsui E&P Australia Pty Limited ประสบความสำเร็จในการประมูลสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศนิวซีแลนด์ โดยได้รับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียม รวม 6 แปลง ในบริเวณออฟชอร์ เกรท เซ้าท์ เบซิน (Offshore Great South Basin) ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ได้แก่ แปลงหมายเลข 5, 6, 11, 12, 13 และ 14 รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 49,000 ตารางกิโลเมตร โดยในช่วง 3 ปีแรก ปตท.สผ. และกลุ่มผู้ร่วมประมูลมีแผนจะดำเนินการสำรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนและศึกษาศักยภาพปิโตรเลียมของแปลง กลุ่มผู้ร่วมประมูลสัมปทานในครั้งนี้ มีสัดส่วนการลงทุน ดังนี้ บริษัท OMV New Zealand Limited (ผู้ดำเนินการ) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซฯ ในประเทศออสเตรีย ร้อยละ 36 บริษัท ปตท.สผ.ออฟชอร์ อินเวสเมนต์ จำกัด (PTTEPO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ร้อยละ 36 และบริษัท Mitsui E&P Australia Pty Limited (MEPAU) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซฯ ในประเทศญี่ปุ่น ร้อยละ 28
การได้รับสัมปทานสำรวจปิโตรเลียมครั้งนี้ นับเป็นการขยายการลงทุนครั้งแรกของ ปตท.สผ. ในประเทศนิวซีแลนด์ และเป็นการสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมโครงการที่ 36 ของ ปตท.สผ. ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก จาก 11 ประเทศ ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย สหภาพพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา โอมาน อิหร่าน แอลจีเรีย อียิปต์ และนิวซีแลนด์ เป็นประเทศล่าสุด
โครงการอาทิตย์ก้าวหน้าแล้ว 90%
การพัฒนาโครงการอาทิตย์ระยะที่ 1 มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากทั้งด้านการก่อสร้างแท่นอุปกรณ์การผลิตและด้านการขุดเจาะหลุมผลิต โดย ปตท.สผ. ได้ทำการติดตั้งแท่นหลุมผลิตแล้ว (wellhead platform) 6 แท่น วางท่อก๊าซฯ แล้ว 5 เส้น ท่อคอนเดนเสท 1 เส้น ติดตั้งขาตั้งแท่นผลิตกลาง ขาตั้งแท่นที่พักอาศัย และ Flare Tripod แล้ว สำหรับแท่นผลิตกลาง (Central Processing Platform) ได้เสร็จลุล่วงแล้วประมาณ 90% ถือเป็นแท่นผลิตที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือประมาณ 16,800 ตัน ปตท.สผ. คาดว่าจะสามารถติดตั้งแท่นผลิตหลักนี้ได้ในปลายปี 2550
ด้านการขุดเจาะหลุมผลิต ปตท.สผ. ได้ขุดเจาะหลุมผลิตในโครงการอาทิตย์แล้วเสร็จ 78 หลุม พร้อมสำหรับการเริ่มผลิตตามแผนการพัฒนาโครงการอาทิตย์ระยะที่ 1 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 นี้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายกิจการสัมพันธ์
สิทธิไชย ไชยันต์ โทร. 02 537 4592 E-mail: sidhichaij@pttep.com
ต้องจิตร พงศ์อรพินท์ โทร. 02 537 4587 E-mail: tongchitp@pttep.com
โทรสาร 02 537 4982
Sunatda Panpan
Sunatda P.
Secretary, External Relations
PTT Exploration & Production Plc.
Tel: 0-2537 4143
Fax: 0-2537 4982
Email: sunatdap@pttep.com