ภาวะตลาดทองคำวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 28, 2011 11:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ - ราคาสมาคม เปิดที่ 21,500 - 21,600 - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,528.70 - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.87 — 29.90 - GFJ11 Hi- Low 21,490 — 21,430 ปิดที่ 21,490 Gold & Silver Insight สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 13.60 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,517.10 ดอลลร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 90.80 เซนต์ ปิดที่ 45.958 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 95.59 จุด หรือ 0.76% แตะที่ 12,690.96 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 8.42 จุด หรือ 0.62% แตะที่ 1,355.66 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 22.34 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 2,869.88 จุด หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวและตลาดแรงงานจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% และยืนยันว่าจะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ไปจนครบกำหนดในช่วงกลางปีนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.49% ปิดที่ 112.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 110.71-113.40 ดอลลาร์ ตอบรับเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวในปีนี้ พร้อมกับปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้ลงด้วย อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 28 เมษายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1229.64ตัน USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ไปจนถึงกลางปีนี้ตามกำหนดที่วางไว้ นอกจากนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.97% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4784 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.4642 ดอลล่าร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4843 ดอลล่าร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.69% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.06 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 81.50 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.81 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 29.94-29.98 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.89-29.90 บาทต่อดอลล่าร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก - เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวานนี้ โดยเบอร์นันเก้คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 3.1-3.3% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.9% มีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 8.4% ภายในปลายปีนี้ จากปัจจุบันที่ระดับ 8.8% และคาดว่าอัตราว่างงานในปี 2555 จะลดลงสู่ระดับ 7.6-7.9% นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ประมาณการว่า ดัชนีการใช้จ่ายด้านการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE)ในสหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ จะอยู่ที่ระดับ 2.1-2.8% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.3-1.7% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.3-1.6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.0-1.3% เบอร์นันเก้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปจนกว่าตัวเลขการจ้างงานจะขยายตัวรวดเร็วขึ้น และจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานภาวะสินเชื่อตึงตัวได้ และยอมรับว่า สหรัฐกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้มูลค่ามหาศาล ซึ่งถือเป็นปัญหาเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) พร้อมระบุว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย.ปี 2554 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน หรือสินค้าที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี พุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนมี.ค. หรือเพิ่มขึ้น 5 พันล้านดอลลาร์ แตะระดับ 2.084 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 - สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 เม.ย.พุ่งขึ้น 6.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 363.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล - กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาค อุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.ร่วงลงรุนแรงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15.3% หลังจากภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำนักข่าวเกียวโดคาดว่าจะลดลง 11.4% ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง 27 - 28เมษายน2554 วัน ? Core Durable Goods Orders m/m 0.6% 1.7% 1.3% พุธ ? Durable Goods Orders m/m 0.7% 2.1% 2.5% ? Crude Oil Inventories -2.3M 1.4M 6.2M ? FOMC Statement - - - ? Federal Funds Rate - - - ? FOMC Press Conference วัน ? Advance GDP q/q 3.1% 1.9% พฤหัสฯ ? Unemployment Claims 403K 392K ? Advance GDP Price Index q/q 0.4% 2.2% ? Pending HomeSales m/m 2.1% 1.6%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ