กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
การเล่นกีฬาเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์วิธีหนึ่ง อีกทั้งยังกล่าวกันว่ากีฬาเป็นยาวิเศษ สำหรับคนทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะในวัยเด็ก เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใสแล้ว ยังช่วยสร้างสมาธิ สร้างวินัย สร้างค่านิยมในเรื่องความมีน้ำใจและสร้างความสามัคคี อันเป็นคุณลักษณะที่สังคมปัจจุบันต้องการ
เป็นโอกาสดีของเยาวชนในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุดและเทศบาลเมืองบ้านฉาง จังหวัดระยอง เมื่อบริษัท ดาว เคมิคอล และ บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้ร่วมกันจัดโครงการค่ายฟุตบอลเยาวชนขึ้น โดยเปิดรับสมัครเยาวชนอายุ 5 — 15 ปี ไม่จำกัดเพศ เข้าร่วมค่ายฟุตบอลเยาวชน ปี 2 เป็นระยะเวลา 10 วัน โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะและเทคนิคการเล่นฟุตบอลจากผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลมืออาชีพ ซึ่งโครงการได้รับการตอบรับจากเยาวชนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมอย่างล้นหลาม
สนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านมาบตาพุด เป็นสถานที่จัดพิธีเปิดค่ายฟุตบอล เอสซีจี เคมิคอลส์ & ดาว ฟุตบอลแคมป์ ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากการโชว์ความสามารถและทักษะการเล่นฟุตบอลของเยาวชนรุ่นที่หนึ่งที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งมีลีลาเฉพาะตัวที่เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใคร แม้กระทั่งน้องเล็กที่มีอายุเพียงแค่ห้าปีก็มาโชว์ทักษะการเล่นฟุตบอลแบบอายุเป็นเพียงตัวเลข เรียกรอยยิ้มจากพี่ๆ และแฟนคลับข้างสนาม ตามด้วยการกล่าวเปิดงานในบรรยากาศแบบเป็นกันเองของผู้บริหารจากดาว เคมิคอล และ เอสซีจี เคมิคอลส์ แล้วปิดท้ายด้วยการเล่นฟุตบอลกระชับมิตรรุ่นใหญ่ระหว่างผู้บริหารของดาว เคมิคอล และ เอสซีจี เคมิคอลส์กับสื่อมวลชนจังหวัดระยอง ที่สร้างสีสันให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี
นายสุทิน ประไพตระกูล ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุง บริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการเอสซีจี เคมิคอลส์ & ดาว ฟุตบอล แคมป์ ได้จัดขึ้นเป็นปีที่สองแล้ว เนื่องจากโครงการนี้ได้รับการตอบรับดีมากในปีที่ผ่านมา ในปีนี้จึงได้เพิ่มการอบรมเป็น 2 ครั้ง ระหว่างช่วงต้นเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม เยาวชนกว่า 250 คนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับชุดกีฬาจำนวน 2 ชุด ได้รับการประเมินผลการฝึกทักษะฟุตบอลก่อนและหลังโครงการ และได้รับประกาศนียบัตรเมื่อสิ้นสุดการอบรม โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะกระตุ้นและปลูกฝังให้เยาวชนสนใจการออกกำลังกาย ช่วยให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งฝึกความมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย และฝึกความมีวินัยอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเรียน การทำงาน ช่วยสร้างสถาบันครอบครัวและสังคมให้เข้มแข็งได้ต่อไป”
นายบุญเอื้อม น้อยเอม ผู้จัดการโรงงาน บริษัท สยาม มิตซุย พีทีเอ จำกัด (ในเครือ เอสซีจี เคมิคอลส์) กล่าวว่า “โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพของเยาวชนและรณรงค์ให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬา เพราะการเล่นฟุตบอลนอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้เรื่องการมีน้ำใจนักกีฬา ฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม เนื่องจากฟุตบอลต้องแบ่งหน้าที่ไม่สามารถเล่นคนเดียวได้ ซึ่งจะสามารถนำไปปรับใช้กับการเรียนและการทำงานในอนาคตได้ด้วย รวมถึงยังช่วยปูพื้นฐานด้านกีฬาฟุตบอลให้เยาวชนของจังหวัดระยองสามารถก้าวไปเป็นตัวแทนระดับจังหวัดหรือระดับประเทศต่อไป”
นายสุนทร พอใจ หนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนของค่ายฟุตบอลเยาวชนรุ่นที่สอง ซึ่งมีดีกรีเป็นผู้ตัดสินสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ชั้น 1 และเป็นสต๊าฟโค้ชฟุตบอลเยาวชนทีมชาติไทยรุ่นอายุ 12 ปี ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอาเซียนคัพ ประจำปี 2553 (ASIAN Youth Football Cup 2010) กล่าวว่า “โครงการ เอสซีจี เคมิคอลส์ & ดาว ฟุตบอล แคมป์ นี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ให้เยาวชนตื่นตัวในการออกกำลังกายและเรียนรู้การเล่นฟุตบอลที่ถูกต้อง โดยการอบรมตลอดระยะเวลา 10 วัน จะแบ่งเป็นฐานทักษะต่างๆ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ตั้งแต่การสัมผัสบอล การหยุดบอล การรับ-ส่งบอล การเลี้ยงบอล การทำประตูในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการเล่นระบบทีม โดยเน้นความมีน้ำใจนักกีฬา และฝึกปฏิบัติจริงจากสิ่งที่ได้เรียนรู้เป็นหลัก เป็นพื้นฐานในการก้าวไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ” โค้ชคนเก่งเผยเคล็ดลับการพาทีมเยาวชนคว้าแชมป์ระดับนานาชาติว่า “นอกจากทักษะเฉพาะตัวในการเล่นฟุตบอล ความสามัคคี และความมีวินัยของนักกีฬาก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เยาวชนที่เข้าร่วมแคมป์ฟุตบอลในครั้งนี้จะได้เรียนรู้และฝึกฝน”
นางสุภัทรา จันทร์โต ผู้ปกครองของ ด.ช. จิรวัฒน์ จันทร์โต นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดบ้านฉาง ซึ่งเข้าร่วมโครงการ เอสซีจี เคมิคอลส์ & ดาว ฟุตบอล แคมป์ รุ่นที่หนึ่ง กล่าวว่า “โครงการค่ายฟุตบอลเยาวชนนี้มีประโยชน์มาก ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของลูกหลังจากเข้าร่วมโครงการ ที่เห็นชัดเจนคือ ลูกมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น และหายจากอาการภูมิแพ้ กลายเป็นคนมีสมาธิมากขึ้น มีความรับผิดชอบและมีความอดทนมากขึ้น จากเดิมที่ไม่ค่อยตื่นเช้า ก็กลายเป็นคนกระตือรือร้น ตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนฟุตบอลกับเพื่อนๆ แม้โครงการจะสิ้นสุดลง ลูกก็ยังคงตื่นเช้าขึ้น มีวินัย หันมาสนใจกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจังและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็สามารถเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนมัธยมตากสินระยองได้ด้วยความสามารถพิเศษด้านกีฬา นอกจากค่ายฟุตบอลเยาวชน กลุ่มบริษัทดาวยังลงพื้นที่สร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนอย่างต่อเนื่อง และจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้ชุมชนอย่างสม่ำเสมอ ดิฉันขอขอบคุณผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องทุกคนด้วยค่ะ”
ด.ช. พยัค ยิ้มอยู่ ด.ช. คันธวงศ์ ชัยปัญญา และ ด.ช. ศรายุทธ จันทะมน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านพยูน ตัวแทนเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ เอสซีจี เคมิคอลส์ & ดาว ฟุตบอล แคมป์เมื่อปีที่ผ่านมา กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบเล่นกีฬาฟุตบอล ดีใจที่เอสซีจี และดาว เปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีโอกาสเรียนรู้การเล่นฟุตบอลที่ถูกต้องกับผู้สอนที่มีความสามารถ สอนเข้าใจง่าย พี่ๆ ของดาวใจดีมาก อยากให้จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อไป เพราะนอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะทางฟุตบอลแล้ว การเลี้ยงบอล เดาะบอล ยังช่วยให้พวกเขามีสมาธิมากขึ้น เป็นคนหูไวตาไวกล้าตัดสินใจเวลารับส่งลูก ฝึกทักษะการทำงานเป็นทีม และได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ อีกด้วย
การเรียนรู้การใช้เวลาว่างอย่างสร้างสรรค์ในการทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจและเป็นประโยชน์ ดังเช่นการเข้าร่วมค่ายฟุตบอลเยาวชน เอสซีจี เคมิคอลส์ & ดาว ฟุตบอล แคมป์ ในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาความพร้อมทางร่างกายและจิตใจของเด็กๆ ให้พวกเขาเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพของประเทศได้ต่อไป และไม่แน่ว่ากิจกรรมครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างนักฟุตบอลอาชีพประดับวงการกีฬาของไทยในอนาคตก็เป็นได้