กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--พี อาร์ โซลูชั่น
ทรู ประกาศผลประกอบการประจำปี 2549 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้และจำนวนผู้ใช้บริการ จากผลประกอบการของธุรกิจหลักทั้ง 3 ธุรกิจ คือ ทรูมูฟ บริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป และทรูวิชั่นส์ (ชื่อเดิม ยูบีซี) ปรับตัวดีขึ้น
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร กล่าวว่า ในปี 2549 บริษัทประสบความสำเร็จในการรวมทรูวิชั่นส์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทรู รวมทั้งการดำเนินนโยบายยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำ Convergence Lifestyle ซึ่งทำให้บริการต่างๆ ของกลุ่มมีพัฒนาการก้าวหน้าและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ปี 2549 ถือว่า กลุ่มทรูบรรลุเป้าหมายแรกของยุทธศาสตร์การเป็นผู้นำ Convergence Lifestyle ที่สามารถเพิ่มคุณค่าให้ผู้ใช้บริการด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ภายในกลุ่ม ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายและครบวงจร ทั้งบริการด้านเสียง ข้อมูล และวิดีโอ ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการของทรูมูฟและทรูวิชั่นส์เพิ่มเป็นประวัติการณ์”
“การรวมทรูวิชั่นส์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทรู ยังทำให้สามารถขยายขอบเขตและคุณภาพการให้บริการได้มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการกว่า 11 ล้านราย โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับปี 2548 และตั้งเป้าหมายว่า จะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้มากยิ่งขึ้นในปี 2550”
รายได้จากบริการโดยรวมของทรู ในปี 2549 เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 21.7 เป็น 50.4 พันล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากการรับรู้รายได้ของทรูวิชั่นส์อย่างเต็มที่ ผนวกกับรายได้ของทรูมูฟและบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำไรจากการดำเนินงาน ก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) ปรับตัวดีขึ้นในอัตราร้อยละ 7.8 เป็น 16.9 พันล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้ของทรูวิชั่นส์ ทั้งนี้ทรูมีผลขาดทุนสุทธิลดลงจำนวน 818 ล้านบาท เป็น 1.9 พันล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมรายการพิเศษต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการทรูวิชั่นส์
ในไตรมาส 4 รายได้จากบริการโดยรวมของทรูมูฟเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในขณะที่ EBITDA คงที่ รายได้จากบริการโดยรวมของบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 โดยรายได้จากบริการโดยรวมของทรูวิชั่นส์อยู่ในระดับคงที่ ขณะที่ EBITDA ลดลงในอัตราร้อยละ 28.7 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายตามฤดูกาลเพิ่มขึ้นบางส่วน
ทรูมูฟมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ในปี 2549 จำนวน 3.1 ล้านราย คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดเกือบร้อยละ 32 ของจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่ทั้งหมด ทำให้มียอดผู้ใช้บริการทั้งสิ้นรวม 7.6 ล้านราย โดยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 19.3 ของตลาดโดยรวม รายได้จากบริการของทรูมูฟ ณ สิ้นปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 22.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 13.9 จากปีก่อน ในขณะที่ EBITDA ลดลงในอัตราร้อยละ 0.5 เป็น 5.1 พันล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขยายโครงข่ายที่เพิ่มสูงขึ้น
“ก้าวสำคัญสำหรับธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปีนี้คือ การที่ทรูมูฟลงนามในสัญญาการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายกับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเป็นธรรมในการแข่งขัน และทำให้การกำหนดอัตราค่าบริการสมเหตุสมผลยิ่งขึ้น”
บริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป ณ สิ้นปี 2549 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากบริการเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 50 และมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 47 เป็น 443,000 ราย การเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริการอินเทอร์เน็ต และบริการด้าน Non-voice โดยรวม มีส่วนชดเชยรายได้ของบริการโทรศัพท์พื้นฐานที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในระหว่างปี
ในปี 2549 ทรูได้รับใบอนุญาตให้บริการอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศ จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) โดยทรูจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2550 บริการดังกล่าวจะทำให้ทรูสามารถเพิ่มมูลค่าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ของทรู
ทรูวิชั่นส์มีรายได้จากบริการโดยรวม 8.3 พันล้านบาท และ EBITDA 2.1 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 โดยสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้ในอัตราร้อยละ 30 เป็น 629,269 ราย (รวมผู้ใช้บริการจากโปรโมชั่นกับทรูมูฟ) การเติบโตดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผลจากความสำเร็จในการขยายบริการสู่ตลาดกลางและล่าง ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ทำให้ทรูควบรวมกิจการทรูวิชั่นส์ ซึ่งทำให้มีจำนวนครัวเรือนที่ใช้บริการผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ภายในกลุ่ม ทรูเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้าโดยรวมให้กับธุรกิจโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกของทรูวิชั่นส์อีกด้วย
นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน กล่าวเสริมว่า งบดุลของทรูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทรูได้ชำระคืนหนี้จำนวน 8.0 พันล้านบาทในปี 2549 นอกจากนี้ยังสามารถดำเนินการหาเงินกู้ระยะยาวเพื่อการควบรวมกิจการทรูวิชั่นส์ได้แล้วเสร็จ และสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดเป็นจำนวนรวม 3.4 พันล้านบาท ในขณะที่ทรูมูฟประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 16.3 พันล้านบาท) ให้แก่นักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ทรูยังได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทางบัญชีในส่วนของภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (Deferred tax) ใหม่ ทำให้สัดส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2549 เพิ่มเป็น 7.4 พันล้านบาท นายแฮริสกล่าวว่าทรูยังคงมุ่งลดภาระหนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2549 ทรูมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ลดลงเป็น 4.6 เท่า เมื่อเทียบกับ 4.8 เท่าในปี 2548 และ 6.5 เท่าเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์, กลุ่มบริษัท ทรู อ้างอิง (036) 27/02/2007 บริษัท พี อาร์ โซลูชั่น จำกัด : โทรศัพท์ 0-2656-8059
ศิษฎิ รูเบ็น โทร: +66 (0) 2643 2463 คุณประภาส จรสรัมย์ โทร. 0-81827-7354
อัญชลิกา เค้าสงวนศิลป์ โทร +66 (0) 2699 2727 คุณจิตฤทัย ทัดเสรีวิบูลย์ โทร. 0-81613-1865
ณัฏฐากร พลับประสิทธิ์ โทร +66 (0) 2699 2771 คุณสิทธิกร รัตนะเศรษฐี โทร. 0-89155-5095