กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์
บริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์ จำกัดสนับสนุนงบ 1.4 ล้านบาทแก่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมเฟ้นหาตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 41 ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร ปลายปี 2554 นี้
นางจิราภรณ์ เกษรสุจริต อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เผยว่า การเพิ่มสมรรถนะกำลังแรงงานด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือภาคเอกชนที่จะต้องร่วมมือกัน ผลักดันให้ประเทศไทยมีกำลังแรงงานที่มีทักษะฝีมือได้มาตรฐานสากล
จากการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียนครั้งที่ 8 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปลายปี 2553 ที่ผ่านมานั้น เราได้ตัวแทนเยาวชนไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 41 แล้วในจำนวน 24 สาขา ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเก็บตัวเพื่อเตรียมเข้าแข่งขันในปลายปี 2554 ณ ประเทศสหราชอาณาจักร แต่ยังขาดตัวแทนเยาวชนไทยในสาขาสีรถยนต์อยู่ บริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์ จำกัด จึงได้ให้การสนับสนุน จัดการแข่งขันเยาวชนจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 1- 12 ขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค. ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 1 สมุทรปราการ เพื่อคัดเลือกตัวแทนเยาวชนไทย เก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมก่อนส่งเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติครั้งที่ 41 ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร ในปลายปี 2554 นี้
ด้านนายณัฐวุฒิ ตั้งคารวะคุณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิช เพ้นท์ จำกัด เผยว่า สำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าแรงงานไทยเป็นแรงงานที่มีฝีมือได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ รู้สึกเสียดายโอกาสหากในการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติครั้งที่ 41 นี้จะไม่มีตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมแข่งขัน จึงได้สนับสนุนให้จัดการแข่งขันช่างสีรถยนต์ พร้อมทั้งเก็บตัวฝึกซ้อมผู้ชนะ 2 คน รวมทั้งจัดส่งเข้าร่วมแข่งขัน ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร ร่วมกับทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 1,446,800 บาท
นางจิราภรณ์ เพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ทำให้ประเทศไทยได้ส่งตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติครั้งที่ 41 รวมทั้งสิ้น 25 สาขา ซึ่งทุกสาขานับว่ามีความสำคัญเท่าเทียมกัน การสนับสนุนจากภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยให้ตัวแทนเยาวชนมีความพร้อมในสาขานั้นๆเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหวังว่า จะยังคงได้รับความร่วมมือกับภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญต่อไปในอนาคต