ซีพีเอฟรายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2 กำไร 955 ล้านบาท ด้านการลงทุนในต่างประเทศผลตอบแทนเป็นไปตามคาด มั่นใจแนวโน้มครึ่งปีหลังสดใสต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Thursday August 9, 2007 09:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ซีพีเอฟ
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสสองของซีพีเอฟว่า ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟในไตรมาส 2 ปี 2550 มียอดขายรวม 34,749 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 955 ล้านบาท ดีขึ้นเป็นลำดับจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เนื่องจากระดับราคาเนื้อสัตว์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้นเป็นลำดับ และผลตอบแทนจากการไปลงทุนในต่างประเทศ เช่น ตุรกี มาเลเซีย อินเดีย และจีน มีผลการดำเนินงานที่ดี ในส่วนของการส่งออกนั้น ยังมียอดขายเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะการส่งออกไก่เนื้อที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากระยะเดียวกันของปีก่อน
ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานในภาพรวมมากนัก เพราะบริษัทมีการซื้อขายในรูปของค่าเงินสกุลยูโรและปอนด์สเตอร์ริงประมาณ 30% นอกจากนั้น บริษัทมีการนำเข้าเครื่องจักร การขยายการลงทุนในต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนเหล่านี้ถูกลง
นายอดิเรก กล่าวด้วยว่า มีความมั่นใจในยอดขายรวมของปี 2550 ว่าจะเติบโตในระดับ 10 % จากปี 2549 โดยผลประกอบการในครึ่งปีหลังจะโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจที่บริษัทเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ และการขยายตัวของตลาดส่งออกที่มีแนวโน้มสดใสขึ้น ประกอบกับภาวะราคาเนื้อสัตว์ในประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ในระดับราคาที่สูงกว่าครึ่งปีแรก
สำหรับการขยายการลงทุนในประเทศต่างๆ นั้น บริษัทมั่นใจว่าเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องและยังคงศึกษาหาประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวก็เพิ่งเปิดดำเนินการ ผลการดำเนินงานคงเริ่มส่งผลในปีหน้า ส่วนที่ประเทศรัสเซีย ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในต้นปีหน้า นายอดิเรก กล่าว และว่า
ในส่วนของสินค้าอาหาร บริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์และทำกิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและส่งออกสินค้าอาหารเหล่านี้ไปขายยังต่างประเทศ ในหลายประเทศแล้ว เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา
นอกจากการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อบริหารความเสี่ยง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น บริษัทยังได้ให้ความสำคัญในการดำเนินกิจกรรมด้านสังคม หรือ Corporate Social Responsibility (CSR) ด้วย โดยบริษัทได้มีการดำเนินการด้านนี้มาตลอด โดยยึดมั่นในปรัชญาธุรกิจ ที่ท่านประธานกรรมการธนินท์ เจียรวนนท์ วางไว้ คือ การทำธุรกิจใดๆ เราต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ 3 ประการ โดยผลประโยชน์ของประเทศมาเป็นที่หนึ่ง ลำดับ 2 คือ ผลประโยชน์ของประชาชน และท้ายสุดคือผลประโยชน์ของบริษัท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักสารนิเทศ ซีพีเอฟ
โทรศัพท์ 0-2631-0641, 0-2638-2713, 0-2

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ