กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บิ๊กซีร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ลดปัญหาสินค้าล้นตลาดและราคาตกต่ำ
นางจารุวรรณ ธรรมเกษร ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารสด บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (27 กรกฎาคม 2550) บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จะร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ในโครงการรวบรวมผลไม้และการส่งเสริมด้านการตลาด ผลไม้ภาคใต้ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ณ สหกรณ์การเกษตรนาสาร จำกัด อ.นาสาร จ.สุราษฎร์ธานี โดย บิ๊กซีจะรับซื้อผลไม้จำนวน 1,500 ตัน คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านบาทจากสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และระนอง เพื่อสนับสนุนด้านการตลาดให้กับเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในพื้นที่ภาคใต้และช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผลผลิต เพื่อบรรเทาปัญหาเรื่องผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ
“ในปีนี้ บิ๊กซีได้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรโดยตรงจากเกษตรกรในจังหวัดต่างๆ เป็นมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 9,000 ตัน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีที่ผ่านมาที่รับซื้อเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท หรือจำนวน 3,700 ตัน ซึ่งบิ๊กซีได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์การเกษตรในการหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะในด้านการตลาดและการเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ซึ่ง บิ๊กซีมีนโยบายในการสนับสนุนสินค้าไทย สินค้าโอทอป รวมถึงสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและราคาถูก แต่อาจจะไม่มีตลาดรองรับที่เพียงพอ จึงได้ร่วมเป็นช่องทางหนึ่งของการกระจายสินค้าเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเหลือให้เกษตรกรมีตลาดรับซื้อสินค้าที่แน่นอนและมีรายได้เพิ่มขึ้น”
นางจารุวรรณ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ผ่านมา บิ๊กซีได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกับกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดต่างๆ ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีและต้นฤดูกาล เพื่อรับซื้อสินค้าทางการเกษตรผักและผลไม้ เช่น การรับซื้อผลไม้ อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ลิ้นจี่ ลำไย จากสหกรณ์มะขามและสหกรณ์เขาสมิง จังหวัดจันทบุรี สหกรณ์แม่ใจ จังหวัดเชียงราย สหกรณ์บางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา สหกรณ์บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี สหกรณ์พรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น นอกจากนี้ บิ๊กซียังได้ขยายความช่วยเหลือกับกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ เช่น การส่งเสริมปลูกผัก 9 ชนิด (ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง คะน้า ผักหอม กวางตุ้งไต้หวัน ฟักเขียว ไข้เท้า มะเขือเทศท้อ มะระจีน) ของกลุ่มชาวสวนปทุมธานี การจัดจำหน่ายผักไฮโดรโปนิคส์ของกลุ่มเกษตรกรสมุย และหอยแครง กุ้งขาว หอยนางรม ของสหกรณ์การเกษตรลูกค้า ธกส. จังหวัดสุราษฏร์ธานี ที่บิ๊กซีในราคาเท่ากับท้องตลาด
นอกจากการเป็นตลาดรองรับสินค้าผลไม้ให้กับเกษตรกร บิ๊กซีได้จัดให้กลุ่มเกษตรกรมาดูงานในคลังสินค้าบิ๊กซี รวมถึงจัดให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรได้ปรับปรุงและพัฒนาสินค้าตอบสนองตลาด และเป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าการเกษตรของไทย เช่น การศึกษาความต้องการของลูกค้าและราคา การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผลไม้ที่เป็นที่ต้องการของตลาด การบรรจุหีบห่อเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า การจัดการและการกระจายสินค้าเข้าสู่ห้าง เป็นต้น
“การที่บิ๊กซีร่วมเป็นช่องทางหนึ่งในการจัดจำหน่ายสินค้าผลไม้ไทยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ซึ่งบิ๊กซีหวังว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือนี้จะช่วยให้เกษตรกรมีตลาดสำหรับกระจายสินค้าของตนเองได้ และยังช่วยให้ราคาของสินค้าผลไม้มีความแน่นอน นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้าของบิ๊กซีในการเลือกซื้อผลไม้ที่สดใหม่ มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและในราคาประหยัด” นางจารุวรรณกล่าว
บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ: BIGC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536
เป็นผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ในรูปแบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ ชื่อ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่หลากหลายในราคาสมเหตุสมผล ภายใต้สโลแกน “เราให้คุณมากกว่าคำว่าถูก” เพื่อสร้างความพึงพอใจ
ในระดับสูงสุดแก่ผู้บริโภค ปัจจุบันมีสาขาที่เปิดให้บริการจำนวน 50 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.bigc.co.th
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อที่
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์ / สุภาภรณ์ สุธรรมโกศล
โทร: 0 2252 9871-7
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net