กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--IR network
"แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี" ตอกย้ำความมั่นใจปีนี้ธุรกิจผลิต Cutting Tools ในประเทศยังโตฉลุย รับตลาดผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องจักรกลทั่วไปบูม "พีท ริมชลา" ระบุปีนี้ปั๊มรายได้โตตามเป้า 450 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% จากปีก่อน เหตุไตรมาสแรกออเดอร์ขยายตัว ลุ้นไตรมาสสองยังโตต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH เปิดเผยว่า จากทิศทางการเติบโตอย่างชัดเจนของตลาดผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล จึงทำให้คาดว่าประเทศไทยน่าจะยังมีความต้องการใช้เครื่องมือที่ทำมาจากเพชรสังเคราะห์(Polycrystalline Diamond : PCD) อีกมาก ประกอบกับโดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ซึ่งมีราคาสูงและใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานในการสั่งซื้อและรับสินค้า ขณะเดียวกันในปัจจุบันความต้องการเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ (Cutting Tool) ยังคงมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของ HTECH ในการขยายตลาดและสามารถจำหน่าย Cutting Tool ได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย HTECH มีคุณภาพได้รับการยอมรับในระดับสากลแต่มีราคาที่ต่ำกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนได้มาก
เขากล่าวต่อถึงแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า HTECH มีนโยบายขยายฐานลูกค้าเพื่อรองรับอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนโลหะอื่น โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องมือตัดในกลุ่ม PCBN Cutting Tools ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานกับวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ นอกเหนือจากที่มีอยู่เดิมในกลุ่ม PCD Cutting Tools และ Carbide Cutting Tools โดยใช้เครื่องจักรใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาดำเนินการผลิต
"อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขยายตัวอย่างมากและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ HTECH เนื่องจากบริษัทมีจุดเด่นในการแข่งขันหลายด้าน อาทิ การเป็นผู้นำตลาด PCD Cutting Tool มีบริการครบวงจรสำหรับลูกค้า มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง โดยลูกค้าของ HTECH ส่วนใหญ่เป็นบริษัทผู้ผลิตที่มีมาตรฐานสินค้าคุณภาพสูง นอกจากนี้เรายังมีเครื่องจักรที่ทันสมัย อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI อีกด้วย จึงทำให้มั่นใจว่าปัจจัยบวกที่กล่าวมาจะผลักดันให้ผลการดำเนินงานของ HTECH สามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และสำหรับผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้คาดว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง เนื่องจากมีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก และเชื่อว่าในไตรมาส 2/54 ก็คงอยู่ในทิศทางเดียวกัน"
ทั้งนี้ HTECH ได้ตั้งเป้าผลการดำเนินงานในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ระดับ 450 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % จากปีก่อนที่ทำได้ 369 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าจากต่างประเทศ โดยการขยายตลาดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ ทั้งส่วนของชิ้นส่วนเครื่องบินและรถยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องจักรกลหนัก ขณะเดียวกันบริษัทยังดำเนินการต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมองหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ทางด้านโรงงานใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ที่เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จะช่วยรองรับตลาดในต่างประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง และเป็นการผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ