กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล
คาดว่าอุปสงค์พื้นที่โกดังในเอเชียแปซิฟิกจะลดลง เนื่องจากผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นส่งผลกระทบปริมาณการค้าในภูมิภาค
เมื่อเร็วๆ นี้ คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (Colliers International) นำเสนอรายงานเหตุการณ์สำคัญในวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมทั่วโลก - ครึ่งหลังของปี 2553 โดยเอเชีย-แปซิฟิกยังคงรักษาตำแหน่งภูมิภาคที่เฟื่องฟูที่สุดไว้ได้ ยอดเช่าอเมริกาเหนือกระเตื้องขึ้น ส่วนยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (อีเอ็มอีเอ) เติบโตปานกลาง
สำหรับการเช่าโกดัง โตเกียวครองตำแหน่งค่าเช่าแพงที่สุดในโลก ณ สิ้นปี 2553 ที่ 22.56 ดอลลาร์สหรัฐ ตามด้วยย่านฮีธโทร์วในลอนดอน ซูริก ฮ่องกงและเจนีวา รวมเป็นพื้นที่ที่ค่าเช่าโกดังแพงที่สุด 5 อันดับแรกของโลก
พื้นที่ที่ค่าเช่าโกดังแพงที่สุด 5 อันดับแรกของโลก ณ เดือนธันวาคม ปี 2553
เมือง อัตราค่าเช่า ความเปลี่ยนแปลงในรอบ6เดือน
)ดอลลาร์สหรัฐ/ตารางฟุต/ปี( )เงินสกุลท้องถิ่น,%)
โตเกียว 22.56 -2.9%
ย่านฮีธโทร์วในลอนดอน 20.11 0.0%
ซูริก 17.78 0.0%
ฮ่องกง 17.08 +5.2%
เจนีวา 16.79 +6.2%
เอเชีย-แปซิฟิก
ช่วงครึ่งหลังของปี 2553 การส่งออกของประเทศส่วนใหญ่เติบโตในอัตราที่น่าพึงพอใจ ประกอบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ ยอดการส่งออกเติบโตขึ้นทั้งการส่งออกภายในภูมิภาคและทั่วโลก เอเชีย-แปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคที่เฟื่องฟูที่สุดในโลก ค่าเช่าโกดังในเอเชีย-แปซิฟิกแทบทุกแห่งคงที่ และมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้น ค่าเช่าโกดังในโตเกียวพุ่งสูงที่สุด ณ สิ้นปี 2553 โดยฮ่องกงและสิงคโปร์รั้งอันดับ 4 และ 7 ตามลำดับ
อสังหาริมทรัพย์ประเภทอุตสาหกรรมในประเทศไทยมีการเคลื่อนไหวค่อนข้างมากตลอดปี 2553 ที่ผ่านมา โดยอุปทานที่ดินเพื่อการอุตสหากรรมเพิ่มขึ้น 8,914 ไร่ (3,523 เอเคอร์
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในเดือนมีนาคม 2553 ส่งผลกระทบกับการค้าทั่วภูมิภาคพอสมควร คาดว่าอุปสงค์โกดังในภูมิภาคนี้จะลดลงเมื่อเทียบกับปี 2553 พบว่าห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญของบริษัทญี่ปุ่นได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามในระยะกลางและระยะยาวคาดว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทข้ามชาติสัญชาติญี่ปุ่นกำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศ
อเมริกาเหนือ
ตลาดโกดังทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนนาดากระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2553 อุปสงค์โกดังในสหรัฐอเมริกาจำกัดอยู่ในตลาดใกล้ท่าเรือเพียงไม่กี่แห่ง ส่วนตลาดส่วนใหญ่ในแคนาดามีธุรกรรมค่อนข้างคล่องตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการก่อสร้างยังคงลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้อัตราโกดังว่างในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาลดลง
สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในทั้งสองประเทศทำให้คาดการณ์ว่าในปี 2554 นี้จะมีอัตราการครอบครองเพิ่มสูงขึ้นพอสมควรหากภาคการผลิตดีขึ้นและค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ทิศทางของค่าเช่าในปีนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เช่น ช่วงครึ่งหลังของปี 2553 ค่าเช่าในสหรัฐอเมริกาลดลง 2.9% ส่วนแคนาดาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 0.2%
อีเอ็มอีเอ
หลายๆ ตลาดในอีเอ็มอีเอ กิจกรรมการให้เช่าซบเซาและอัตราการขยายตัวต่ำ การเช่าโกดังในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 ค่อนข้างเสถียร คล้ายๆ กับครึ่งปีแรก แม้ว่าหลายเมืองในยุโรปจะมีอัตราค่าเช่าโกดังแพงติดอันดับโลก เช่น ย่านฮีธโทร์วในลอนดอน ซูริกและเจนีวาติดอันดับห้าพื้นที่ที่มีค่าเช่าโกดังแพงที่สุดในโลก
ย่านฮีธโทร์วในลอนดอนนั้น ไม่ใช่เพียงแต่ค่าเช่าโกดังจะแพงที่สุดในอีเอ็มอีเอ แต่ราคาที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมในทำเลชั้นเลิศยังสูงถึง 56. 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อตารางฟุตซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดในภูมิภาคและสูงกว่าตลาดอื่นในอีเอ็มอีเอเป็นอย่างมาก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยนายแอนโทนี พิคอน | รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย
โทร (662) 656 7000
อีเมลล์ : antony.picon@colliers.com
นายสุรเชษฐ กองชีพ | ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย
โทร (662) 656 7000
อีเมลล์ : surachet.kongcheep@colliers.com