กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
SME BANK เห็นใจลูกหนี้ที่มีความตั้งใจทำธุรกิจ ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ออกมาตรการช่วยเหลือ พลิกฟื้นธุรกิจ มั่นใจผู้ประกอบการจะแข็งแกร่ง และ NPL ธนาคารลดลง หากธนาคารเข้าไปเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) เปิดเผยว่า คณะกรรมการธนาคารได้อนุมัติหลักการโครงการพลิกฟื้นกิจการลูกหนี้ วงเงินสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยธนาคารเร่งเข้าดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่มีปัญหา ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้จะต้องเป็นลูกหนี้ที่มีความตั้งใจจริงในการประกอบธุรกิจ และมีโอกาสพลิกฟื้นกิจการได้ ซึ่งหลังจากเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อใหม่เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง หรือลงทุนในโครงการที่ยังดำเนินไม่แล้วเสร็จ โดยวงเงินกู้ใหม่ จะพิจารณาตามความจำเป็นและความเหมาะสมแต่ละราย
“เงินกู้โครงการพลิกฟื้นกิจการลูกหนี้ จะมีทั้งแบบลงทุนและเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจได้แก่ วงเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Term Loan) คิดอัตราดอกเบี้ย MLR +1 % ต่อปี และวงเงินตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) คิดอัตราดอกเบี้ย MLR+2% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี”
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้แก้ไขหนี้ NPL โดยใช้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ และเร่งรัดหนี้ ทำให้ยอดหนี้ NPL ลดลง แต่ขณะเดียวกันมียอดหนี้รีไฟแนนซ์ (NPL Re-entry) ใกล้เคียงกับการแก้ ไขหนี้ สาเหตุหลักเกิดจากการไม่สามารถป้องกันการ Re-entry การปรับโครงสร้างหนี้ส่วนใหญ่จะทำได้แค่ยืดระยะเวลาผ่อนชำระออกไป การลดอัตราผ่อน หรือพักชำระเงินต้น แต่ไม่ได้มีการให้สินเชื่อใหม่เพิ่มเติม ส่งผลให้ลูกหนี้บางรายดำเนินกิจการต่อไม่ได้ บางรายกู้ยืมหนี้นอกระบบมาลงทุน ทำให้มีภาระหนี้เพิ่มขึ้น จนไม่สามารถชำระหนี้กับธนาคารได้ สุดท้ายต้องล้มเลิกกิจการไป จึงเชื่อว่าโครงการพลิกฟื้นกิจการลูกหนี้ จะเป็นโครงการหนึ่งที่เป็นทางช่วยผู้ประกอบการ NPL ให้ฟื้นสภาพกลับมา ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้