เวก้าฯชูกลยุทธ์ขุดขุมทรัพย์อาหรับ เลือกเจาะแต่ไฮไลท์ตะวันออกกลาง ดัน5 กลุ่มสินค้าไทย กว่า20แฟร์ เริ่มด้วยงานรอมฎอน อบูดาบี้ 9-30 สิงหาคมนี้

ข่าวทั่วไป Wednesday May 4, 2011 14:12 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ได้เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับกระบวนยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์และทิศทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต นับเป็นความโชคดีที่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ตนไปทำธุรกิจนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ล้วนแต่เป็นประเทศฮอตฮิตสุดยอดไฮไลท์ทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาหรับ และไม่มีผลกระทบใดๆจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบางประเทศของภูมิภาคนี้ เพียงแต่ตนต้องตอบคำถามและชี้แจงกับผู้ประกอบการสินค้าไทยเข้าใจมากขึ้นถึงสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อความสบายใจและมั่นใจในทุกด้าน ตนจึงคัดสรรประเทศที่มีศักยภาพและเสถียรภาพสูงเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและรายได้ตลอดจนสัมพันธภาพและความเชื่อมั่นที่ยั่งยืนต่อการทำธุรกิจในประเทศแถบตะวันออกกลาง ควบคู่กับการให้ความรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับผู้ผลิต ผู้ส่งออก กลุ่มSMEsและ OTOP ของไทยที่จะเข้าไปทำตลาดในภูมิแห่งนี้ทั้งเรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดต่อการค้า กฎระเบียบข้อควรรู้และข้อห้ามฯลฯ ทั้งโดยการจัดWorkshopร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆและการให้ข้อมูลสาระความรู้ผ่านเว็บไซท์www.vegainter.com “ในช่วง3เดือนแรกของปี2554 นี้ สินค้าไทยส่งออกในภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น ร้อยละ25.6 โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ29.3 โดยที่สินค้าไทยส่งออกไปตะวันออกกลางน้อยมากคือเพียง5%ของตลาดส่งออกทั้งหมด ผมว่ายังมีโอกาสและช่องว่างที่สินค้าไทยจะเข้าไปเจาะตลาดได้อีกมาก อย่าปล่อยให้เกิดสุญญากาศทางการค้า จะน่าเสียดายมาก ผมคัดเลือกประเทศอาหรับชั้นนำระดับหัวกะทิที่มั่งคั่ง มั่นคงมีเสถียรภาพ เพื่อสร้างและต่อยอดโอกาสให้สินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ประเทศยูเออี โอมาน บาเรนห์ กาตาร์ คูเวต ซาอุดิอาระเบีย และเลบานอน จำนวนกว่า20งานแฟร์ในกลุ่มสินค้า5ประเภทคือ สินค้าทั่วไป สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าก่อสร้างและเครื่องปรับอากาศ สินค้าสุขภาพและสถานพยาบาล สินค้าอาหาร” นายอัครวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า บริษัทเวก้าฯจะเริ่มจากการดันงานแสดงสินค้าทั่วไปที่จะจัดในช่วงเทศกาลถือศีลของชาวมุสลิมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คืองาน Ramadan & Eid Festival 2011 ณ เมืองอบูดาบี้ ประเทศยูเออี ระหว่าง9-30 สิงหาคมนี้ “อาบูดาบี เป็นเมืองหลวง ของยูเออีซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าในตะวันออกกลางที่สำคัญที่สุดของไทย มีธนาคารมากที่สุดในกลุ่มประเทศGCC และมีศักยภาพในการซื้อสูงมาก ยูเออีมีแนวโน้มที่ให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับสินค้าไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ไทยและยูเออีสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตั้งแต่ปี2518 ยูเออี เป็นประตูการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของไทยในตะวันออกกลาง” นายอัครวุฒิกล่าวในที่สุด งานรอมฎอน (Ramadan & Eid Festival 2011)เป็นงานแสดงสินค้าทั่วไปที่มีผู้เข้าร่วมและชมงานทั้งระดับWholesalers และRetailers จากทั่วโลกและทั่วตะวันออกกลางมากที่สุดงานหนึ่ง เจ้าของสินค้าไทย ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน ฯลฯสามารถเล็งผลได้ทั้งด้านเทรดการค้า และกลุ่มผู้บริโภค ประเทศไทยได้โค้วต้าจำนวน60คูหา ซึ่งบริษัทเวก้าฯกำลังรวบรวมผู้ประกอบการสินค้าทั่วไปที่มีวิสัยทัศน์ในการเปิดตลาดใหม่ในตะวันออกกลางอยู่ขณะนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ