กรุงเทพฯ--17 ม.ค.--เอดีทูวายด์ คอมมิวนิเคชั่น
น้องใหม่ธุรกิจพัฒนาที่ดิน “เปรมสิริ” ประกาศทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ผุดโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลทอง “เกษตร-นวมินทร์” จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน มั่นใจศักยภาพของทำเลที่เหนือกว่าแจ้งเกิดโครงการแรก พร้อมเตรียมทำเลทองเตรียมผุดทั้งบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์ —คอนโดฯอีกเพียบ มั่นใจอีก 3-5 ปีแบรนด์เป็นที่ยอมรับของตลาดได้ไม่ยาก
นายสมชัย พันธ์สายเชื้อ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เปรมสิริ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อโครงการ “เปรมสิริ บูติค พาร์ค” บนเนื้อที่กว่า 7 ไร่สำหรับกลุ่มลูกค้าคนทำงานระดับตั้งแต่กลุ่มคนชั้นกลางถึงกลุ่มคนระดับบนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมือง เดินทางด้วยระบบคมนาคมขนส่งมวลชนสะดวก ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส เนื่องจากเป็นพื้นที่บนเส้นทางการพัฒนารถไฟฟ้าใต้ดินเส้นทางใหม่ที่มีแผนลงทุนถึงบริเวณสี่แยกเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ประกอบด้วยอาคารสูง 9 ชั้น จำนวน 4 อาคาร อาคาร สูง 22 ชั้น จำนวน 1 อาคาร โดยในส่วนของอาคารสูง 9 ชั้นนั้นบริษัทได้กำหนดราคาขายไว้ตั้งแต่ 37,400 บาท/ตารางเมตร ส่วนอาคารสูง 22 ชั้นนั้น จะประกอบด้วยพื้นที่สีเขียว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฯลฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดราคาขาย
นายสมชัยกล่าวว่า โครงการ “เปรมสิริ บูติค พาร์ค” ถือเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก ติดถนนใหญ่ ห่างจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น ด้วยทำเลที่ตั้งดังกล่าวนี้นับเป็นจุดขายและจุดแข็งหลักของโครงการที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับโครงการอื่น ๆ ที่อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ทำให้หลังจากที่บริษัทได้พรีเซลไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาขอดูห้องตัวอย่างค่อนข้างสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมียอดจองในส่วนของอาคารแรก (A) และทำสัญญาซื้อขายหมดไป 100% แล้ว
ส่วนอาคารที่สอง (B) ขณะนี้มียอดจองเข้ามาถึงประมาณ 90% และทำสัญญาซื้อขายไปแล้วประมาณ 80% และคาดว่าน่าจะทำสัญญาได้ทั้งหมดภายในกลางเดือนมกราคมนี้ ส่วนอาคารที่สาม (C) นั้น คาดว่าจะเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมนี้เป็นต้นไป ส่วนอาคารสูง 22 ชั้นนั้นคาดว่าน่าจะเปิดให้จองและทำสัญญาได้ในช่วงต้นปี 2551
“ที่ผ่านมานอกจากเราจะชูจุดแข็งในเรื่องของทำเลที่เหนือกว่าแล้ว เรายังมีโปรโมชั่นเพื่อเสริมให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้นด้วยการแถมแอร์ไดกิ้น สำหรับอาคาร A และแถมแอร์ไดกิ้นและชุดครัวโมเดิร์นฟอร์มสำหรับลูกค้าอาคาร B ซึ่งก็มีการปรับขึ้นราคาบ้างเล็กน้อยตามความเหมาสมของสภาพตลาด ส่วนอาคาร C และ D ก็ยังมีโปรโมชั่นต่อเนื่องเช่นกัน” นายสมชัยกล่าว
อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าในส่วนที่เป็นอาคารสูง 9 ชั้น (A,B,C,D) นั้นน่าเปิดการขายและส่งมอบให้ลูกค้าได้ทั้งหมดภายในปี 2551 ส่วนอาคารสูง 22 ชั้นนั้นน่าจะส่งมอบให้ลูกค้าได้ภายในสิ้นปี 2552
นายสมชัยกล่าวว่า เนื่องจาก “เปรมสิริ” เป็นบริษัทน้องใหม่ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงพยายามให้ความสำคัญในเรื่องของการสร้างความพึงพอสูงสุดให้กับลูกค้าเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าเมื่อลูกค้าเกิดความพึงพอใจแล้วลูกค้าจะเป็นสื่อหนึ่งที่ช่วยสร้างให้แบรนด์ของ “เปรมสิริ” เป็นที่รับรู้และเป็นที่ยอมรับของตลาดและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวให้กับกลุ่มผู้บริโภคในอนาคต เนื่องจากบริษัทไม่ได้กำหนดตัวเองไว้เพียงแค่ผู้บริหารโครงการคอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างในเรื่องของการลงทุนทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ฯลฯ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโอกาสความคุ้มค่าและระยะเวลาในการคืนทุนในแต่ละทำเลเป็นหลัก
“ตอนนี้เราก็มีแผนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท บนพื้นที่ประมาณ 45 ไร่บริเวณชานเมือง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดของการซื้อขายที่ดิน นอกจากนี้ยังดูที่ดินบริเวณใกล้เคียงกับเส้นทางรถไฟฟ้าทั้งบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินอีกหลายแปลงที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจลงทุนด้วย” นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวต่อไปอีกว่า การแข่งขันในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนั้นยังเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนรายใหม่อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ กลาง หรือเล็กก็สามารถเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ได้ โดยในส่วนของ “เปรมสิริ” นั้นคาดว่าน่าจะเป็นแบรนด์ที่ยอมรับในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ระดับหนึ่งในช่วงอีก 3-5 ปีข้างนี้แน่นอน
“ด้วยภาพของธุรกิจพัฒนาที่ดินในปีนี้แม้จะดูนิ่งๆ และอยู่ในภาวะที่ผันผวน ทั้งราคาน้ำมัน ดอกเบี้ย การเมือง อัตราแลกเปลี่ยนแต่ก็มีแนวโน้มขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นแต่สำหรับน้องใหม่อย่างเรานั้นได้วางแนวทางการขยายงานไว้แบบค่อยเป็นค่อยไป และขยายตัวอย่างระมัดระวัง” นายสมชัยกล่าวในที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ผกากานท์ (ลูกหยี) ภู่ระโหง
มือถือ 08 1489-841
โทรศัพท์/โทรสาร 0 2910 7998
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net