กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจประจำเดือนเมษายน 2554 ว่ารัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐเป็นจำนวน 21,334.59 ล้านบาท แยกตามรายสาขาเป็นสาขาพลังงาน 11,676 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากก รไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) สาขาสถาบันการเงิน 5,573.70 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์) สาขาขนส่ง 1,412.14 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการท่าเรือแห่งประเทศไทย) สาขาพาณิชย์และบริการ 1,124.47 ล้านบาท (จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และบริษัท ส โรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด) สาขาสาธารณูปการ 981.91 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากการประปาส่วนภูมิภาค) สาขาอุตสาหกรรม 318.30 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากองค์การสุรา กรมสรรพสามิต และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย) สาขาเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ 102.3 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย) และรายได้จากกิ จการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 จำนวน 145.77 ล้านบาท (เป็นเงินนำส่งรายได้จาก บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเมนท์ และบริษัท ประจวบอุตสาหกรรม จำกัด)
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนำส่งรายได้สูงสุด จำนวน 8,676 ล้านบาท สูงกว่าที่ประมาณการไว้ถึง 1,675.58 ล้านบาท ธนาคารออมสินนำส่ง จำนวน 4,025 ล้านบาทจากที่ประมาณการไว้ว่าจะส่งในเดือนพฤษภาคม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำ ส่ง 2,500 ล้านบาท ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 1,548.70 ล้านบาท สูงกว่าที่ประมาณการไว้ 793.50 ล้านบาท และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนำส่งรายได้จำนวน 1,120 ล้านบาท
นายสมชัยฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงปัจจุบัน (ตุลาคม 2553-เมษายน 2554) รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งเงินรายได้เข้ารัฐ (รวมผลตอบแทนจากกองทุนรวมวายุภักษ์) รวม 63,689.66 ล้านบาท จากที่ประมาณการไว้ 55,046.37 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการถึง 8,643.29 ล้านบาท และคิดเป็นร้อยละ75.46 ของประมาณการ ำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจของทั้งปีงบประมาณซึ่งตั้งเป้าไว้ 84,400 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าในปีนี้รัฐวิสาหกิจจะสามารถนำส่งเงินรายได้เข้ารัฐได้เกินเป้าที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน