กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ธนาคารอาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารอาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยวงเงินยื่นกู้ออนไลน์แบบ Real Time นาทีต่อนาทีพร้อมกันทั่วประเทศ ยอดวันแรก 5,875 ราย วงเงิน 8,885 ล้านบาท ยอดสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สำนักงานใหญ่ ตามด้วย สาขาเชียงใหม่ สาขาหาดใหญ่ จ.สงขลา สาขาพัทยา จ.ชลบุรี และ สาขาถนนศรีนครินทร์ กทม. ตามลำดับ
เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.54) นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงบรรยากาศวันแรกของการยื่นกู้ “โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” ว่าแคมเปญนี้ได้รับความ สนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดยมีลูกค้ามารอรับบัตรคิว ตั้งแต่เวลา 04.00 น. และธนาคารได้เปิดให้บริการรับยื่นกู้ตั้งแต่เวลา 8.30 - 15.30 น. โดยข้อมูล ณ เวลา 16.30 น. มีลูกค้ายื่นกู้ในวันแรกจำนวน 5,875 ราย วงเงิน 8,885 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 1.5 ล้านบาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาใช้บริการที่สาขาสำนักพระราม 9 (สำนักงานใหญ่) มากที่สุด วงเงิน 709 ล้านบาท รองลงมาเป็นสาขาเชียงใหม่ สาขาหาดใหญ่ สาขาพัทยา และสาขาศรีนครินทร์ ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมสังเกตการณ์ จะเห็นได้ว่าการทำงานของธนาคารทุกขั้นตอนการมีความชัดเจนและโปร่งใสด้วยระบบไอทีบันทึกข้อมูลประมวลผลโชว์ตัวเลขวงเงินยื่นกู้ออนไลน์ทั่วประเทศแบบ Real Time ทุก 10 วินาที 153 แห่ง ทั้งนี้ ธนาคารปิดระบบบันทึกข้อมูลในเวลา 17.00 น.
“สำหรับรายละเอียด “โครงการบ้าน ธอส.เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก” วงเงิน 25,000 ล้านบาท เสนออัตรา ดอกเบี้ย 0% 2 ปีแรก ปีที่ 3 - 5 คิดอัตราดอกเบี้ย เท่ากับ MRR - 0.50% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) ส่วนลูกค้ารายย่อยทั่วไป คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR ปีที่ 6 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR - 1.00% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) MRR - 0.50% ต่อปี (ลูกค้ารายย่อยทั่วไป) ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี พิเศษสุดสำหรับ ลูกค้าตามโครงการนี้ รัฐบาลช่วยแบ่งเบาภาระค่าจดจำนอง และค่าธรรมเนียมการโอนครึ่งหนึ่งหรือจ่ายตามจริงสูงสุด 1.00% (จากค่าโอนปกติ 2.00% ของราคาประเมิน) โดยกำหนดเงื่อนไขการให้กู้สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแห่งแรกเป็นของตนเอง จะต้องไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือ ห้องชุด ให้กู้เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร โดยราคาที่อยู่อาศัยและวงเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้สินเชื่อเป็นไปตามระเบียบของธนาคาร” นายวรวิทย์ฯกล่าว
สำหรับเอกสารหลักฐานที่ลูกค้าต้องนำมาแสดงในวันยื่นกู้ ต้องลงนามรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ มี 5 อย่าง ได้แก่ 1.สำเนาบัตรประชาชน/ข้าราชการ+ทะเบียนสมรส (กรณีสมรสแล้ว) 2.สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า 3.เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน บัญชีเงินฝาก สำเนาการค้าหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ หรือหลักฐานการแสดงฐานะทางการเงินอื่นๆ 4.สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญามัดจำ หรือสำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/คำขออนุญาต และ 5. สำเนาโฉนด หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด โดยธนาคารได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินการและวิธีปฏิบัติในการรับเรื่องยื่นกู้โครงการดังกล่าวไว้ 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 เปิดให้รับบัตรคิวและรับแบบฟอร์มคำขอกู้ ขั้นตอนที่ 2 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของเอกสารตามลำดับบัตรคิว ขั้นตอนที่ 3 รับบัตรคิวเพื่อรอบันทึกข้อมูลการยื่นกู้เข้าระบบ ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลจองสิทธิ์วงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษตามลำดับบัตรคิว และลูกค้าจะได้รับใบติดตามเรื่อง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกลับตามขั้นตอนและวิธีปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคารอีกครั้งหนึ่ง .ทั้งนี้ หากลูกค้าที่สนใจยื่นกู้ในโครงการฯ สามารถติดต่อได้ที่สาขาทั่วประเทศ จำนวน 153 แห่ง โดยขอให้เตรียมเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นกู้ให้ครบถ้วน เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสทองครั้งนี้
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 02-645 9000 หรือทาง www.ghbank.co.th