กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--มูลนิธิสยามกัมมาจล
มหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม ครั้งที่ 2 “แบ่งปัน...เพื่อเปลี่ยนแปลง” ปิดฉากลงอย่างสวยงามท่ามกลางความสำเร็จ ของเหล่าเยาวชนไทยทั้งประเด็นไอทีซี สิ่งแวดล้อม ปฎิรูปการเรียนรู้ จิตอาสา พลังเยาวชนท้องถิ่น และปิดเทอมสร้างสรรค์ เหล่าเยาวชนดีใจมีผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้พื้นที่ นำเสนอสิ่งดีที่เด็กทำได้ เพราะพลังเด็กคือพลังของประเทศในอนาคต ด้านผู้ใหญ่กว่า 140 องค์กรสนับสนุนต่อ “สู้ไม่ถอย” ร่วมกันกำจัดอุปสรรคปลุกพลังบวกเยาวชนไทย ต่อยอด แบ่งปัน เพื่อเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยที่น่าอยู่ต่อไป
หลังจากดำเนินกิจกรรมกันมาตลอด 3 วันของมหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิดหลัก “แบ่งปัน...เพื่อเปลี่ยนแปลง” เหล่าพลังเยาวชนจากทั่วประเทศที่เข้ามาร่วม “แบ่งปัน” ประสบการณ์ ความรู้ เทคนิค เครื่องมือ ในการทำงานและดำเนินชีวิตที่ถูกทาง เกิดผลร้อยโยงพลังบวกของเยาวชนกว่า2000 คนที่ร่วมงานให้เป็นหนึ่งเดียวที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ต่อไป
นางปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ประธานคณะทำงานกองเลขานุการจัดงานฯ และผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวว่า ตลอดงานบรรดาเด็กและเยาวชนที่ร่วมงานได้แสดงให้สังคมเห็นแล้วว่า “เยาวชน” เป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพมีความสามารถ มีพลัง ในการคิดและสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมได้ “พลังเยาวชน” มีบทบาทสำคัญในการร่วมสร้างสรรค์สังคมไทย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
งานมหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคมเกิดขึ้นเพื่อแสดงพลังเชิงบวกของเยาวชนในสังคม ให้สังคมรับรู้และยอมรับ “พลังเยาวชน” ที่จะร่วมคิดและสร้างสังคมไทยร่วมกับผู้ใหญ่ โดยเปิดโอกาสและให้พื้นที่ในการนำเสนอเรื่องราวและผลงานดีๆของเยาวชนที่ได้ใช้พลังศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาตนเองผ่านการลงมือทำด้วยมุ่งมั่นและจริงจัง รวมทั้งแบ่งปันความรู้ ความสามารถให้กับสังคม ซึ่งพลังบวกที่พวกเขาได้แสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ น่าจะทำให้ผู้ใหญ่วางใจที่จะฝากอนาคตของสังคมไทยให้กับเยาวชนคนคุณภาพ อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือ การรวมตัวกันแสดงความสามารถ แบ่งปันความรู้ ความคิด เพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้น และพวกเขาอยากบอกสังคมไทยว่า
“การเปิดโอกาสให้น้องๆได้แสดงพลังความคิดความสามารถที่ผู้ใหญ่คิดไม่ถึง นอกจากเยาวชนจากทั่วประเทศได้มารวมตัวกันแสดงความสามารถในด้านต่างๆแล้ว ยังต่อยอดเชื่อมโยงการทำงานท่ามกลางอุปสรรค ความหลากหลาย และกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ และเมื่อมาร้อยรัดการทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ สังคมไทยที่น่าอยู่ย่อมเกิดขึ้นได้อย่างที่ทุกคนอยากเห็น”
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการหอจดหมายเหตุพุทธทาส กล่าวว่า ในฐานะเจ้าของสถานที่ในการจัดงานครั้งนี้ ยินดีที่มีการจัดงานมหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม และทำให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามาใช้สถานที่สวนโมกข์กรุงเทพฯแห่งนี้ และที่น่ายินดีผลจากงานนี้คือการ “ต่อยอด”โดยน้องๆอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งจากงานนี้ได้รวมตัวกันตั้ง BIA Youth Club ขึ้นมาเพื่อเป็นอาสาสมัครด้านต่างๆให้กับสวนโมกข์ จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนมาเยี่ยมเยือนสวนโมกข์ กรุงเทพฯ สถานที่อันสำคัญในการสืบสานงานพระพุทธศาสนา
ด้านเยาวชนตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ พร้อมใจกันขอบคุณองค์กรเจ้าภาพและองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ทำให้เด็กและเยาวชนอย่างพวกเขามีโอกาส มีพื้นที่ในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ เด็กคิด เด็กทำ และภายใต้กระบวนการจัดงานตลอดตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สำนึก“จิตอาสา” ที่จะมาร่วมกันทำความดีและส่งต่อความดีไปสู่ส่วนต่างๆของสังคม จากวันนี้ไปจนกว่าจะกลับมาพบกันใหม่ในงานมหกรรมพลังเยาวชนครั้งต่อไปนั้น พวกเขาจะยังคนสานต่อการทำสิ่งดี ที่สร้างสรรค์ และแบ่งปัน ไม่ย่อท้อ ที่จะทำให้สังคมไทยที่สงบสุขในอุดมคติเกิดขึ้นได้จริง
สำหรับการจัดงานมหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม ครั้งที่ 2 นี้องค์กรจัดงานซึ่งประกอบด้วยมูลนิธิสยามกัมมาจลและองค์กรเจ้าภาพ 18 องค์กร รวมทั้งภาคีเครือข่ายองค์กรพัฒนาเยาวชนอีกกว่า 140 องค์กรได้ร่วมกันสนับสนุนให้เยาวชนแสดงพลังสร้างสรรค์ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีอีกครั้ง เพื่อให้สังคมได้เห็นศักยภาพ ความสามารถและพลังของเยาวชน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมสร้างสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง