วว. เจ๋งวิจัยผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดธรรมชาติเห็ดนางรมทอง-นางรมดอย

ข่าวทั่วไป Wednesday May 11, 2011 11:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--วว. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดธรรมชาติเห็ดนางรมทองและนางรมดอย” (เพียว สมูท : Pure — Smooth) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวลดริ้วรอยและผลิตภัณฑ์แผ่นผ้ามาร์คหน้า ระบุมีประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงดูอ่อนกว่าวัย และอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใส มีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรเพาะเห็ดนางรมทองและเห็ดนางรมดอย ในระดับเชิงพาณิชย์ นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ วว. กล่าวชี้แจงว่า ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดธรรมชาติเห็ดนางรมทองและนางรมดอย” (เพียว สมูท : Pure—Smooth) จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวลดริ้วรอย (Pure - Smooth Anti-wrinkle Serum) เป็นผลิตภัณฑ์สูตรเข้มข้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยเฉพาะจุดอย่างเร่งด่วน มีประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงดูอ่อนกว่าวัย และอุดมด้วยสารกลุ่มโพลีฟีนอล (polyphenol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้สดใส และมีสารโพลีแซคคาไรด์ (polysaccharide) ช่วยให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า ทำให้มีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสารเบต้ากลูแคน (b-glucan) ช่วยทำให้เซรั่มซึมซาบเข้าสู่ผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ และ ผลิตภัณฑ์แผ่นผ้ามาร์คหน้า (Pure - smooth Anti-wrinkle Facial Mask) เป็นผลิตภัณฑ์สูตรประสิทธิภาพอ่อนโยน เหมาะกับผู้ที่ดูแลสภาพผิวเพื่อลดริ้วรอย อุดมด้วยสารกลุ่มโพลีฟีนอล (polyphenol) สารโพลีแซคคาไรด์ (polysaccharide) และสารเบต้ากลูแคน (b-glucan) มีประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงดูอ่อนวัย ช่วยปกป้องและฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ชุ่มชื่นแลดูสดใส มีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ “…เวชสำอางมีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ถึงแม้เศรษฐกิจของประเทศจะมีการเติบโตที่ชะลอลง แต่ผู้บริโภคยังคงหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพผิวพรรณและความงาม โดยเฉพาะในเรื่องช่วยแก้ไขความงามและสุขภาพ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ปี 2554 การตลาดเครื่องสำอางนำเข้าจะมีมูลค่าไม่ต่ำว่า 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15% จากปี 2553 โดยเป็นเวชสำอางประเภทบำรุงผิวหน้าและความงามเกี่ยวกับใบหน้า 61% ประเทศไทยเรามีความพร้อมของวัตถุดิบสมุนไพรที่มีเอกลักษณ์และภูมิปัญญาไทย เพราะฉะนั้นเราควรสร้างนวัตกรรม ปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อลดการพึ่งพาวัตถุดิบเคมีจากต่างประเทศและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพืชสมุนไพร ซึ่ง วว. ได้ช่วยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาอย่างครบวงจร มาพัฒนามาตรฐานการผลิตผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากเห็ดนางรมทองและเห็ดนางรมดอย ที่มีผลการทดสอบทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนและผ่านการทดสอบว่ามีความปลอดภัยต่อผู้ใช้” ผู้ว่าการ วว. กล่าว นางภัทรา อะหมะดี พีรซะหีด นักวิชาการ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความต้องการผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพความงามของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น วว. จึงได้นำสมุนไพรมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบของ “ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดธรรมชาติจากเห็ดนางรมทองและนางรมดอย” ซึ่งเป็นความสำเร็จจากการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอางต้านริ้วรอยจากสมุนไพร (เริ่มดำเนินการ ต.ค.2550-ก.ย.2554) ภายใต้ชุดโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากสมุนไพร ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพตั้งแต่วัตถุดิบจนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ ผ่านการทดสอบความปลอดภัย (Safety Evaluation) พบว่า ไม่ก่อการระคายเคืองต่อดวงตา (No Eye Irritation) ไม่ก่อการระคายเคืองต่อผิวหนัง (No Skin Irritation) ไม่ก่อความเป็นพิษเฉียบพลันต่อผิวหนัง (No Acute Dermal Toxicity) และไม่ก่อการแพ้ต่อผิวหนัง (No Skin Sensitization) ขณะนี้ วว. ได้ยื่นจดสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์แล้ว นอกจากนี้ยังได้นำผลิตภัณฑ์เซรั่มลบริ้วรอย Pure-smooth ทดสอบในผู้ใช้จริง ที่มีอายุระหว่าง 43-61 ปี (21 คน)โดยทดสอบตามมาตรฐานสากลของการวัดริ้วรอย วิธี SILICONE REPLICA ANALYSIS *บริเวณริ้วรอยหางตา (Crow’s feet area) และวัดค่าการทดสอบดังต่อไปนี้ จำนวนริ้วรอย (Number of Wrinkles)พื้นที่รวมของบริเวณริ้วรอย (Total Wrinkles Area) ความยาวรวมของริ้วรอย (Total length of Wrinkles)ความยาวเฉลี่ยของริ้วรอย (Mean Length of Wrinkles)พบว่า ผลการทดสอบทั้ง 4 parameter มีค่าลดลง ซึ่งสรุปได้ว่าผลิตภัณฑ์เซรั่มลบริ้วรอย Pure-smooth มีประสิทธิภาพลบริ้วรอยได้จริง (ทดสอบโดย SPINCONTROL ASIA Co.,Ltd.) “...คอลลาเจนคือโปรตีนที่อยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะทำให้ผิวเต่งตึง โดยในร่างกายทุกคนจะมีโปรตีนชนิดนี้อยู่แล้ว แต่เมื่ออายุเกิน 20 อัตราการสร้างคอลลาเจนจะลดลง ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นน้อยลง เกิดริ้วรอยตามมา นอกจากนี้ริ้วรอยยังเป็นผลมาจากสภาพมลภาวะและพฤติกรรมการบริโภคจะทำให้ผิวขาดความสดใส ไม่มีชีวิตชีวาและคอลลาเจนที่ลดลง ทำให้ผิวมีริ้วรอยไม่กระชับและไม่เต่งตึง ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวของสารสกัดธรรมชาติจากเห็ดนางรมทองและนางรมดอยของ วว. จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว เนื่องจากสารสกัดจากเห็ดทั้ง 2 ชนิดมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนต่อผิวหนัง และจากการวิจัยนี้ทำให้เราทราบว่าเห็ดนอกจากจะนำมาบริโภคเพื่อคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังนำมาพัฒนาเป็นเวชสำอางทดแทนการใช้เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ขณะนี้ วว. โดย ดร.ชนะ พรหมทอง นักวิชาการ ฝ่ายวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ได้ร่วมมือกับมูลนิธิโครงการหลวง ประสบผลสำเร็จในการเพาะเห็ดนางรมทอง ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเห็ดเขตหนาวดอยปุย จ.เชียงใหม่ และพร้อมเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรภายใต้มูลนิธิโครงการหลวงและกลุ่มเกษตรกรทั่วไปเพาะเห็ดนางรมทองและเห็ดนางรมดอย ในระดับเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้การเพาะเห็ดในเชิงอุตสาหกรรมขยายตัวมากขึ้น ทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มและเกิดการกระจายรายได้ เป็นเครือข่ายการผลิตของอุตสาหกรรม SMEs ที่ต่อเนื่องและยั่งยืนได้” นางภัทรา อะหมะดี พีรซะหีด กล่าว เห็ดนางรมทอง มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Pleurotus citrinopileatus Singer. และเห็ดนางรมดอย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pleurotus ostreatus (Fr.) Kummer. มีรูปร่างเหมือนหอยนางรม เรียกว่า Oyster mushroom อยู่ในกลุ่มเห็ดเขตหนาวหรือกึ่งหนาว โดยเห็ดนางรมทองมีลักษณะดอกสีเหลืองสวยงาม ส่วนเห็ดนางรมดอยมีลักษณะดอกสีเทา ลักษณะที่สำคัญคือ หมวกดอกมีผิวเรียบ กลางหมวกเว้าเป็นแอ่ง ขอบหมวกม้วนลงเล็กน้อย เมื่อดอกบานเต็มที่ด้านใต้ของหมวกจะมีลักษณะเป็นครีบ ก้านดอกยาวปานกลาง และต่อเนื่องติดเป็นเนื้อเดียวกับหมวก ดอกเห็ดอาจเกิดเป็นดอกเดี่ยวหรือเกิดเป็นกระจุก ลักษณะดอกเห็ดค่อนข้างบอบบาง มีโคนก้านดอกติดกันและมีหมวกเห็ดซ้อนก้นเป็นชั้นๆ ทำการเพาะในฤดูฝน-ฤดูหนาว ชอบอากาศเย็นชื้น เส้นใยเห็ดเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิประมาณ 25-30?C และเจริญเป็นดอกเห็ดได้ดีที่ช่วงอุณหภูมิ 20-30?C ความชื้น 80-95% เห็ดทั้ง 2 ชนิด มีคุณค่าทางโภชนาการโดยมี โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินและแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินบีรวม ซีลีเนียม โปแตสเซียม ทองแดง และกรดโฟลิก สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ได้ที่ Call center วว. โทร. 0 2577 9300 หรือที่โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 ในวันและเวลาราชการ www.tistr.or.th E-mail : tistr@tistr.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ