กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--IR network
บมจ.กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง โชว์ผลงานไตรมาส 1/2554 อลังการด้วยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น 1,111.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" เผยได้แรงหนุนมาจากรายได้จากการขายในประเทศและต่างประเทศพุ่ง ประกาศมุ่งเดินหน้าเหมางานประมูลเพิ่มเพื่อต่อยอดธุรกิจ มั่นใจปีนี้รายได้ไม่พลาดเป้าที่ 2,300 ล้านบาทแน่นอน
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2554 ของบริษัทและบริษัทย่อยว่ามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 57.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.37 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวมากถึง 1178.14% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.53 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้ GUNKUL มีการเติบโตของกำไรสุทธิอย่างโดดเด่น เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 470.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 241.30 ล้านบาท คิดเป็น 105.28% โดยมีสาเหตุมาจาก รายได้จากการขายในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน จำนวน 51.91 ล้านบาท และ 177.36 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52.23% และ 139.12% ตามลำดับ และบริษัทได้บันทึกรายได้จากการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า สำ หรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 3.0 เมกกะวัตต์ ที่ได้เริ่มเปิดดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2554 เป็นต้นมา รวมอยู่ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมของบริษัทฯ สำหรับไตรมาส1/2554 จำนวน 13.70 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ในไตรมาส 1/2554 มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 27.41 % เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนอยู่ที่ 21.22 % เพิ่มขึ้น 29.17%
"ผลการดำเนินงานไตรมาส1/2554 ถือว่าเติบโตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เป็นผลจากการจำหน่ายภายในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งรับรู้รายได้มากขึ้นในการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า ขณะที่การส่งออกไปยังต่างประเทศ ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมมากขึ้นจากประเทศมาเลเซีย, เวียดนาม และพม่า จึงมีแนวโน้มว่าธุรกิจของ GUNKUL ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังสามารถขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และในปัจจุบันเรายังคงเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2554 จะมีงานเปิดประมูลอีกจำนวนมาก ส่วนมูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอ ยู่ในระดับประมาณ 1,600 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถรักษาเป้าหมายรายได้ในปี 2554 ไว้ที่ระดับ 2,300 ล้านบาท หรือเติบโต 100 % เมื่อเทียบกับปีก่อนได้"
สำหรับเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ในส่วนของธุรกิจเดิม คือ งานด้านผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง บริษัทจะยังคงรักษาระดับการเติบโตไว้ไม่น้อยกว่า15% ขณะที่งานประมูลและก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ บริษัทมี Backlog ในส่วนของงาน บริษัทโซลาต้าร์ จำกัด มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท ที่ต้องเร่งดำเนินให้เสร็จสิ้นและรับรู้เป็นรายได้ทั้งจำนวนภายในปีนี้ อีกทั้งบริษัทยังเข้าร่วมงานประมูลงานก่อสร้างกว่า 5,000 ล้านบาท
ด้านงานส่งออกต่างประเทศในส่วนของพม่าช่วงไตรมาส1/2554 บริษัทรับรู้รายได้จากการส่งออกไปยังพม่าจำนวน 300 ล้านบาท และมี Backlog อยู่อีกประมาณ 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะบันทึกเป็นรายได้ภายในปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท
ส่วนงานด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทย่อย คือ บริษัท กันกุลเพาเวอร์เจน จำกัด (ขนาด 30.9 เมกกะวัตต์ รวม 5 โครงการ) มีเป้าหมายจะเปิดจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในโครงการแรก เฟส 2 ที่อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ อีกจำนวน 4.4 เมกกะวัตต์ ภายในเดือนสิงหาคม 2554 ทำให้บริษัทสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้รวม 7.4 เมกกะวัตต์ และจะลงมือสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์โครงการสอง ที่อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ อีก 8 เมกกะวัตต์ ทันที คาดว่าจะแล้วเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าได้ประมาณไตรมาส 1/2555
ขณะที่การจัดทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการรวม 26 MW ของบริษัท จี พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด นั้น ขณะนี้โครงการมีความคืบหน้ามากพอสมควร โดยบริษัทมีเป้าหมายจะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบตามโครงการดังกล่าวช่วงไตรมาส 4/2554 หากสามารถหาผู้ร่วมทุนได้ตามที่กำหนดแล้ว โดย GUNKUL จะคงสัดส่วนความเป็นผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 50% ซึ่งจะทำให้ปลายปีนี้บริษัทสามารถผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าภายใต้สัดส่วนของ GUNKUL ประมาณ 20 เมกกะวัตต์