กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--เครือข่ายความร่วมมือฮักษาฮีตฮอยย้อนรอยวิถี
เครือข่ายความร่วมมือฮักษาฮีตฮอยย้อนรอยวิถี ป๋าเวณีเตวขึ้นดอยร่วมมือกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรหงดเหล้าและเครือข่ายเยาวชนเฝ้าระวังภัยแอลกอฮอล์ ๗ สถาบันจังหวัดเชียงใหม่ในการแถลงข่าวต่อพสื่อมวลชนถึงสภาพปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในวันเตวขึ้นดอยสุเทพจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันประเพณีอันสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีอยู่อย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยสภาพของสังคมและบ้านเมืองที่เปลี่ยนไป อาจทำให้มีหลายสิ่งหลายอย่างในประเพณีนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปด้วย เป็นต้นว่า มีร้านค้ามากมายตามริมถนน มีการตั้งโรงทานทั้งอาหารและน้ำดื่มเพื่อให้บริการแก่คนที่มาร่วมกิจกรรมเดินขึ้นดอย วัยรุ่นหนุ่มสาวพร้อมใจกันมาเดินกันอย่างมากมาย บ้างก็ไม่รู้ถึงสารัตถะของงานบุญครั้งนี้ ฯลฯ
จากข้อมูลที่ได้รับการบอกเล่าจากผู้สูงอายุที่เคยร่วมประเพณีอันสงบสวยงามนี้ในสมัยก่อน ได้ย้อนอดีตให้ฟังว่า เหล่าสาธุชนที่จะเดินขึ้นดอยในคืนก่อนวันวิสาขะ ต้องตระเตรียมตัวกันอย่างดี ทั้งกระบอกน้ำดื่มส่วนตัว ข้าวเหนียวนึ่งห่อใบตองและกับข้าวจำพวกน้ำพริก,ผักสดผักลวกบ้างเล็กน้อย และพากันเดินขึ้นไปอย่างสงบสำรวม เมื่อถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพในตอนดึก ก็นอนหลับพักผ่อนเพื่อที่จะได้ตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใน เข้าร่วมทำบุญตักบาตร ทำวัตรเช้าตามประเพณี
แม้ในปัจจุบัน ก็ยังคงมีสาธุชนที่คงความดั้งเดิมของประเพณีนี้ไว้ได้อย่างดี แม้ว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างได้เปลี่ยนไปภาพความสกปรกเลอะเทอะเต็มไปด้วยขยะในตอนเช้าบนถนนที่ทอดยาวขึ้นสู่ยอดดอยสุเทพ เป็นภาพที่ชวนหดหู่และชวนตั้งคำถามว่า ในคืนที่ผ่านมานั้น ได้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบนถนนเส้นนี้ ทั้งขยะจากถ้วยจานที่ทำจากโฟม ขวดและแก้วน้ำพลาสติก ขวดเบียร์-เหล้า กระป๋องเครื่องดื่มสารพัด ( ซึ่งจำนวนไม่น้อยคือกระป๋องเบียร์ ) ทำให้หลายคนอาจไม่แน่ใจว่า นี่เป็น กิจกรรมงานบุญหรืองานมหกรรมอาหารกันแน่
จากปัญหาต่างๆ ที่ได้พบเจอจากงานบุญอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ทำให้หลายภาคส่วนในสังคมได้แสดงความห่วงใย ด้วยเกรงว่าหากปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เรื้อรังไป ก็ยิ่งจะทำให้การแก้ปัญหาทำด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น ในปีนี้ หลากหลายองค์กรทั้งภาคประชาชนและภาครัฐในจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้รวมกันกันเป็นเครือข่ายทำงาน “ ฮักษาฮีตฮอย ย้อนรอยวิถี ป๋าเวณีเตวขึ้นดอย ” ขึ้นมา เพื่อทำกิจกรรมรณรงค์สร้างสรรค์ เพื่อรักษาประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์และสวยงามนี้ให้ดำเนินต่อไปด้วยความราบรื่น สวยงามและศักดิ์สิทธิ์ดังเดิมแต่ก่อนมากระบวนการทำงานของเครือข่าย “ ฮักษาฮีตฮอย ย้อนรอยวิถี ป๋าเวณีเตวขึ้นดอย งด ขยะ เหล้ายา”
โดยการรณรงค์เผยแพร่เพื่อทำความเข้าใจในประเพณีนี้ ด้วยสื่อต่างๆ ทั้งป้ายไวนีลติดตามถนนห้วยแก้ว, รายการวิทยุ,อินเตอร์เน็ต, บทความในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ ทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่น /จัดตั้งทีมเฝ้าระวังในคืนวันงาน เพื่อสำรวจและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจจับผู้ทำผิดกฎหมาย ในเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (อุทยานแห่งชาติเป็นที่ห้ามนำเข้า ห้ามขาย ห้ามดื่ม ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ( มาตรา 18/25 )ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ) เนื่องในวันวิสาขบูชา เป็นวันห้ามขายห้ามดื่มสุราแห่งชาติ/การตั้งด่านตรวจและสกัดแอลกอฮ์ 3 จุด ด้วยความร่วมมือของอุทยานแห่งชาติ , โรงพักภูพิงค์, กอรมน., และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคพายัพ /จัดตั้งทีมเก็บขยะในตอนเช้าวันถัดมา เพื่อเป็นการทำความสะอาดและประเมิณงาน ด้วยความร่วมมือจาก ชุมนุมรักษ์สิ่งแวดล้อมโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และ สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคพายัพ
/พร้อมกันนี้ทางเครือข่ายยังมีอาสาสมัครอีกนับร้อยชีวิตที่จะมาร่วมลงนามในการสนับสนุนให้ดอยสุเทพและงานบุญประเพณีให้เป็นงานที่ศักดิ์สิทธิ์และปลอดเหล้าเบียร์
ทางเครือข่ายทำงาน มีความยินดีพร้อมที่จะร่วมกันเสียสละทำงานบุญในครั้งด้วยความสมัครใจ ด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนา ด้วยความรักและหวงแหนดอยสุเทพอันเป็นภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ของล้านนา