บทสัมภาษณ์ “อลิส ทอย” สาวน้อยหน้าหมวย ขอร่วมทริป “เพื่อนไม่เก่า” ด้วยคน

ข่าวบันเทิง Thursday May 12, 2011 09:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--สหมงคลฟิล์ม แนะนำตัว-ผลงาน สวัสดีค่ะ “อลิส ทอย” ค่ะ รับบทเป็น “ซันนี่” ในเรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” ค่ะ ผลงานก่อนที่จะมาเล่นหนังเรื่องนี้ก็มีถ่ายโฆษณา, ถ่ายนิตยสาร, แล้วก็มีเป็นพิธีกร, ร้องเพลงบ้าง, เดินแบบบ้างอะไรอย่างนี้ค่ะ ล่าสุดที่เพิ่งผ่านก็คือหนังเรื่อง “หลุดสี่หลุด ตอน ฮูอากง” ค่ะ เข้ามาร่วมงานกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างไร ความจริงมันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ เลยนะคะ คือมีรุ่นพี่ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ อินเตอร์ เค้าเรียกมาแคส เค้าบอกว่าอยากได้คาแร็คเตอร์แบบเป็นผู้หญิงไต้หวันอะไรอย่างนี้ แล้วคือเราเรียนจีนอยู่ที่คณะ เค้าก็เลยเรียกเข้ามาแคสดู จริงๆ ไม่ได้เจอใครเลยนะคะ เพราะเค้าก็เหมือนแบบนัดๆ มา ไม่ได้เหมือนแบบไปแคสโฆษณาที่มานั่งรอกันทีเดียว ก็เลยไม่รู้ว่าคนมาแคสบทนี้เยอะหรือเปล่าค่ะ ตอนแคสติ้งเค้าก็จะมีบทซักซีนสองซีนจากในหนังนี่แหละค่ะให้เล่น เราก็แคสบทตอนที่ต้องโทรตามแฟนเราค่ะ โทรตามจิกนิดนึงเป็นภาษาไทยแล้วก็ภาษาจีน แล้วก็เป็นฉากที่เหมือนบอกรักกันอะไรอย่างนี้ค่ะ มีการเตรียมตัวก่อนที่จะมาเล่นเรื่องนี้อย่างไรบ้าง การเตรียมตัวนะคะนอกจากเวิร์คช็อปการแสดงแล้ว สำหรับบท “ซันนี่” เนี่ยจะต้องพูดภาษาจีนให้คล่อง เนื่องจากเราต้องเล่นเป็นสาวไต้หวัน เราก็ต้องเล่นให้คนเชื่อว่าเราเป็นสาวไต้หวันจริงๆ พอหนูได้สคริปต์มาปุ๊บหนูก็แบบท่องรวดเดียวเลย ก็พยายามดูหนังจีนเยอะๆ ฟังเพลงจีนเยอะๆ แล้วก็เวลาดูบทก็ไปให้ครูที่โรงเรียนช่วยดูค่ะ แบบจะได้พูดให้เหมือนคนจีนจริงๆ แล้วก็ให้คุณพ่อช่วยดูด้วย เพราะว่าคุณพ่อก็เป็นคนฮ่องกงแล้วก็ทำธุรกิจกับคนไต้หวันอยู่ค่ะ ก็ช่วยได้เยอะมากๆ บทบาท-คาแร็คเตอร์ ในเรื่องนี้ “ซันนี่” จะเป็นสาวที่งี่เง่า คือไม่ใช่งี่เง่าแบบนั้นนะคะ แต่เป็นแบบอารมณ์เด็กงอแง มีความเป็นผู้หญิงสูง เอาแต่ใจ แล้วก็ขี้วีน ซึ่งถ้าถามว่าเหมือนหรือแตกตางกับเรามั้ยเนี่ย ก็ค่อนข้างจะแตกต่างค่ะ คือโอเค...เรามีความเป็นเด็กอยู่ในตัว แต่ว่าเราค่อนข้างมีเหตุผลมากกว่าที่จะใช้อารมณ์หรือว่าไปตามจิกอะไรอย่างนี้นี่ไม่มีเลยในชีวิตจริงของเราค่ะ ตัวซันนี่จะเป็นแฟนของ “โป้” ค่ะ (รับบทโดย ต่อ ออกัส) แล้วก็รู้จักกับกลุ่มนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะว่าเป็นแฟนกันมาตั้งแต่เข้ามหา’ลัยค่ะ เพื่อนๆ ก็จะเห็นอยู่ตอนเค้ามาจีบเรา ตอนกระหนุงกระหนิงกันอะไรอย่างนี้ค่ะ แล้วก็ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในทริปเดินทางของแก๊งนี้เข้าด้วย เหมือนเป็นตัวป่วนการเดินทางเลยค่ะ เรื่องนี้มันก็ยากที่จะต้องเป็นผู้หญิงที่เราไม่ได้เป็นในชีวิตประจำวันนะคะ แต่ก็ต้องพยายามเข้าถึงบทบาทให้ได้มากที่สุดค่ะ มีพื้นฐานภาษาจีนจากการที่ได้เรียนมาอยู่แล้วตรงนี้มีส่วนช่วยให้แสดงง่ายขึ้นมากน้อยแค่ไหน ช่วยให้ง่ายขึ้นค่ะ แทบจะไม่มีคำศัพท์ที่เราไม่รู้จักเลย มันก็เลยทำให้พูดคลล่องปากนิดนึง เป็นเหมือนคำที่ได้ยินอยู่บ่อยๆ อะไรอย่างนี้ค่ะ ได้ยินจากหนัง ได้ยินจากเพลง ได้ยินจากในคลาสเรียน ก็ทำให้การใส่สำเนียงหรือว่าการเข้าใจเนี่ยค่อนข้างจะเข้าใจได้ง่ายขึ้นมากๆ การร่วมงานกับวงออกกัส ก็สนุกดีค่ะ ทุกคนแบบเป็นกันเอง ก็เข้ากันได้ดีค่ะ ก็จะมีนัดซ้อมกันเรื่อยๆ นะคะ อย่างหนูกับพี่ต่อเนี่ยก็จะมีเข้าบทภาษาจีนด้วยกันอยู่ก็ต้องมีแบบนัดออกมาซ้อมกัน เพื่อที่จะพูดได้แบบคล่องปากอะไรอย่างนี้ค่ะ หนูเองก็มีสอนภาษาจีนพี่ต่อนิดหน่อย เพราะว่าพี่ต่อเนี่ยไม่เคยเรียนภาษาจีนมาเลย แล้วก็มาเริ่มจากเรื่องนี้เรื่องแรกที่พูดภาษาจีน ก็นิดหน่อยค่ะไม่ได้เยอะอะไรมากมาย พี่ต่อเค้าก็ขยันฝึกดีค่ะ ฟิตมากๆ จริงๆ ก็เคยเจอ “พี่แวน” กับ “พี่นายน์” ที่โรงอาหารคณะอักษรฯ ก็เคยรู้จักพี่แวนอยู่บ้างนิดนึงค่ะ ก็มีคุยๆ กันก่อนที่จะได้เล่นหนังว่า แบบเฮ้ย...เราจะได้เล่นหนัง เค้าก็บอกว่าเรื่องอะไรอ่ะ ก็คุยไปคุยมา อ้าว...เรื่องเดียวกัน แต่ว่าก็ไม่เคยคุยจริงๆ จังๆ ก็มาเจอกันตอนร่วมงานแล้วค่ะ ถ้าถามว่าโดนแกล้งอะไรมั้ย ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่นะคะ เพราะว่าก็อายุเท่าๆ กัน เพราะว่าหนูนิ่งๆ มั้ง ส่วนใหญ่ทุกคนจะไปแกล้ง “พี่อ๋อง” กันมากกว่า ก็คุยเล่นกันปกติค่ะ ไม่ค่อยโดนแกล้งแบบจริงๆ จังๆ อาจจะเพราะแม่ไปด้วยก็ได้ (หัวเราะ) การร่วมงานกับผู้กำกับเป็นอย่างไรบ้าง การทำงานกับ “พี่ปิง” (เกรียงไกร วชิรธรรมพร) ผู้กำกับเรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” ก็เป็นพี่ที่ใจดีมากๆ เป็นกันเอง แล้วก็เป็นคนที่แบบเหมือนกับอธิบายด้วยภาษาที่เราเข้าใจได้ง่าย เหมือนแบบเข้าใจตัวละครแล้วก็อินกับบทได้มากขึ้นอีกเยอะเลย ไปถ่ายหนังตามต่างจังหวัดรู้สึกประทับใจที่ไหนบ้าง ก็ประทับใจลำปางที่สุดค่ะ เพราะว่าเวลาถ่ายเสร็จก็ประมาณสองทุ่มอะไรอย่างนี้ ก็จะออกมากินข้าว เดินเล่น แบบฟิลถนนคนเดินอะไรอย่างเนี่ย อาจจะแบบพอเลิกกองก็จะลั้ลลา มีความสุข ได้ปลดปล่อย ทุกคนก็แบบชิลๆ อะไรอย่างนี้ค่ะ มีซีนที่เล่นยากหรือว่าซีนที่ประทับใจเป็นพิเศษหรือเปล่า จริงๆ ก็ยากทุกซีนนะคะ เพราะว่าบท “ซันนี่” เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างไม่ใช่เราเท่าไหร่ มีแบบงอแงตลอดเวลา วีนๆ หึงๆ หวงๆ ซึ่งแบบเราเป็นคนค่อนข้างเฉยๆ มากกับเรื่องแบบนี้ แต่แบบซันนี่เนี่ยค่อนข้างจะแสดงอารมณ์ความเป็นผู้หญิงออกมามากๆ แล้วเราก็รู้สึกว่ายากอะไรอย่างเนี้ย ถามว่าซีนที่ประทับใจก็ประทับใจทุกซีน เพราะว่าแต่ละซีนมันก็จะมีฟิลอารมณ์ของมัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตรงจุดนั้น ทั้งสถานที่ถ่ายทำ ทุกอย่างมันก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเราค่ะ ก็รู้สึกดีทุกครั้งค่ะ หนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับการบนบาน แล้วตัวจริงชอบเรื่องแบบนี้บ้างหรือเปล่า จริงๆ แล้วก็ชอบไปวัดนะคะ แต่ว่าก็ไม่ได้บ่อยมาก ก็ไม่ได้มีโอกาสมากขนาดนั้น ก็ชอบเข้าไปขออะไรอย่างเนี่ย แต่ถ้าบนจริงๆ จังๆ ก็ไม่เคย แต่ว่าอย่างเรื่อง “ฮูอากง” เนี่ย หนูก็ไปขอไว้ว่า เออ...หนูอยากเล่นหนังเรื่องนี้ ถ้าได้เล่นนะ หนูจะกินเจให้สองอาทิตย์ แต่ว่ามันไม่ใช่บนแบบว่าจะไปรำอย่างเนี้ยไม่มี เป็นแค่แบบเล็กๆ น้อยๆ แบบบนว่าจะกลับไปอีก จะกลับไปไหว้อีกมากกว่าค่ะ เสน่ห์ของหนังเรื่อง “เพื่อนไม่เก่า” อลิสว่าอยู่ที่มิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ดำเนินไป มันเป็นความผูกพันที่แบบลึกซึ้งระหว่างเพื่อน ไม่ใช่แค่มุมมองความรักของหนุ่มสาว ยิ่งแบบต้องขี่จักรยานไปด้วยกันมันยิ่งแบบเห็นวิธีการแก้ปัญหาว่าเพื่อนกลุ่มนี้เค้าจะทำยังไง แก้ปัญหายังไง จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง แล้วจะยังเหมือนเดิมมั้ย นี่แหละมันคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้นะคะ นิยามของเพื่อนไม่เก่า คือเพื่อนกลุ่มหนึ่งหรืออาจจะเป็นแค่คนๆ เดียวที่เค้าจะค้างอารมณ์ความรู้สึกผูกพันนี้ไปตลอด แต่บางคนเหมือนเราจบมัธยมเนี่ยพอเรากลับไปคุยแล้วมันไม่ใช่ แต่บางคนแบบว่าคุยกันกี่ทีก็เหมือนเดิม เหมือนความรู้สึกที่ในอดีตมันยังอยู่ตลอดเวลา แบบจบไปแล้วทำงานแล้วก็ยังมีความรู้สึกเป็นเด็ก ยังมีความผูกพันตรงนั้นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ เรื่องนี้ก็จะให้ความรู้สึกอย่างนี้ ก็อยากให้ทุกคนเข้าไปชม เข้าไปซึมซับความรู้สึกแบบนี้กันเยอะๆ ค่ะ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้อลิสด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
แท็ก พิธีกร  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ