กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศผลและมอบโล่10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เชื่อมั่นสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ในทุกภูมิภาค

ข่าวทั่วไป Thursday May 12, 2011 09:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศผลและมอบโล่10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เชื่อมั่นสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ในทุกภูมิภาค เสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศ “กรมทรัพย์สินทางปัญญา” ประกาศผลและมอบโล่เกียรติยศพร้อมประกาศเกียรติคุณ10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยพิจารณาข้อเสนอจาก 73 จังหวัด รวม 108 เมือง เชื่อมั่นเมืองที่ได้รับการคัดเลือกจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ในทุกภูมิภาค ส่งผลถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการค้า โดยรวมของประเทศ นางปัจฉิมา ธนสันติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากรัฐบาล เพื่อกระตุ้น เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในทุกภาคส่วน และขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามที่รัฐบาลได้ประกาศพันธสัญญาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 4 ด้าน 12 ประการ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2552 โดยที่ผ่านมากรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ดำเนินโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไปแล้วมากมาย โดยโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นหนึ่งในโครงการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน โดยกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ในพื้นที่ ด้วยการนำภูมิปัญญาทั้งในส่วนบุคคลและท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์เชิงพานิชย์ด้วยการสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าหรือบริการท้องถิ่นให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน จังหวัด และประเทศชาติ ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การจัดโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือก 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative City) ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะเป็นแบบอย่างให้ประชาชนในภูมิภาคและท้องถิ่นต่างๆ สามารถใช้เป็นแนวทางในการสร้างความตื่นตัว และกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาสร้างโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างเป็น รูปธรรมและยั่งยืน ซึ่งได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 โดยมีการแต่งตั้ง คณะทำงานโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ คณะกรรมการคัดเลือกคณะทำงานคัดกรอง และคณะทำงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประจำจังหวัด ซึ่งได้มีการจัดประชุมระดมความคิดเห็นในการนำเสนอเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทั้ง 76 จังหวัด ในระหว่างเดือนมกราคม — เดือนเมษายน กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลได้จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้คัดเลือก 10 เมือง/ชุมชน ต้นแบบที่มีศักยภาพตามแนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยพิจารณาข้อเสนอจาก 73 จังหวัด รวม 108 เมือง โดยเมืองที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่ 1. จังหวัดชัยนาท เมืองแหล่งเมล็ดพันธุ์ข้าว (นางลือ-ท่าชัย) 2. จังหวัดเชียงราย เมืองแห่งการพัฒนา (ดอยตุง) 3. จังหวัดเชียงใหม่ เมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ 4. จังหวัดน่าน น่านเมืองเก่าที่มีชีวิต 5. จังหวัดเพชรบุรี เมืองเพชร เมืองตาลโตนด 6. จังหวัดมหาสารคาม เมืองแห่งการเรียนรู้ สู่การพัฒนาชุมชน 7. จังหวัดยะลา Bird City ศูนย์กลางเศรษฐกิจนก 8. จังหวัดลพบุรี เมืองนวัตกรรมแห่งพลังงานทดแทน 9. จังหวัดลำปาง ลำปางเมืองเซรามิก 10. จังหวัดอ่างทอง ชุมชนเอกราชหมู่บ้านทำกลอง ทั้งนี้เมืองต้นแบบที่ได้รับการคัดเลือก จะได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพโดยการได้เข้าร่วมกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยวิทยากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในด้านที่เหมาะสมกับแต่ละเมืองต้นแบบ ซึ่งจะครอบคลุมในเรื่องการออกแบบ การพัฒนาสินค้าหรือบริการ วิธีการทางการตลาด รวมถึงการจัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ของ 10 เมืองต้นแบบ เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์ กระตุ้นสร้างความตระหนัก สร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนในจังหวัด ท้องถิ่น และชุมชนอื่นๆ ที่เข้าเยี่ยมชมผลงานเพื่อเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายต่อยอดผลงานสร้างสรรค์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ “หวังเป็นอย่างยิ่งว่า 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ได้รับการคัดเลือกจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ชุมชนทั่วประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้ในทุกภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการค้า โดยรวมของประเทศ จึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกท่าน ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในทุกภูมิภาคของไทยได้ทราบถึงการดำเนินโครงการ 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อขยายผลให้เกิดการสานต่อแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป ขอขอบคุณค่ะ”นางปัจฉิมา กล่าวปิดท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ