กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน เปิดตัว “ทีมโฆษกพลังงาน” ยันเตรียมรับมือการใช้ไฟฟ้าหน้าร้อน หลังการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค) ทะลุยอดใช้ปี 49 เรียบร้อย วอนประชาชนประหยัดการใช้พลังงานรอบด้าน มั่นใจเดินหน้านโยบายรอบด้าน หลังร่างพ.ร.บ. ประกอบกิจการพลังงาน พ.ร.บ. อนุรักษ์พลังงาน และมาตรการประหยัดพลังงานภาคราชการ ผ่านความเห็นชอบ ครม. ช่วยเสริมงานพลังงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมกลุ่มโอเปก เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายน้ำมัน
ดร. คุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง ว่า ในวันนี้(14 มี.ค. ) ที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงาน ได้รับทราบตัวเลขปริมาณการใช้ไฟฟ้าล่าสุดจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยพบว่าการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีค ได้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 21,317.8 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นยอดใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นกว่าพีค ในปี 2549 แล้วถึง 253.5 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้น 1.2% โดยกระทรวงพลังงานได้ประมาณการณ์ว่า ในปี 2550 นี้จะมียอดการใช้ไฟฟ้าสูงถึง 21,600 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม 2550 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงสุด โดยกระทรวงพลังงาน จะได้เร่งออกกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดการใช้พลังงานในช่วงหน้าร้อนนี้ต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้บริหารฯ ยังได้รับทราบถึง การผลักดันกฎหมายสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสริมประสิทธิภาพนโยบายด้านพลังงานของประเทศ โดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. ... ซึ่งจัดได้ว่าเป็นกฎหมายที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้พลังงานอย่างแท้จริง เพราะจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการที่ครอบคลุมทั้งกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ ให้มีการดำเนินการที่โปร่งใส มีบริการที่ดี และมีราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งมีการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน และดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการพลังงาน โดยร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ต่อวงการพลังงาน และยืนยันได้ว่าไม่ได้มีเนื้อหาส่วนใดนำไปสู่การแปรรูปกิจการไฟฟ้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ครม. ยังได้ให้ความเห็นชอบในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ซึ่งได้มีการปรับปรุงโดยเพิ่มสาระให้ครอบคลุมถึงเรื่องการขนส่ง โดยเฉพาะด้านยานพาหนะ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ การแก้ไขหลักการเรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่เคยมีความซ้ำซ้อนกับสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ไม่ซ้ำซ้อนและเกิดความคล่องตัวในการออกสลากการประหยัดพลังงานในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการออกมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและการแสดงค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเพิ่มเติมเรื่องการจัดให้มีการจัดการพลังงานในโรงงานควบคุม และในอาคารควบคุม ตลอดจนการกำหนดให้อาคารก่อสร้างใหม่ต้องออกแบบ เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
นอกจากนี้ การประชุมครม.ล่าสุด( 13มี.ค.) ได้ผ่านความเห็นชอบในส่วนของมาตรการประหยัดพลังงานส่วนราชการ โดยจะนำเกณฑ์ใหม่ที่เป็น “ค่ามาตรฐานการจัดการใช้พลังงานในส่วนราชการ” มาใช้ซึ่งจะสอดคล้องกับลักษณะงานที่ส่วนราชการปฏิบัติ ซึ่งค่ามาตรฐานใหม่นี้จะวัดจากปัจจัยหลักที่มีต่อการใช้พลังงานของแต่ละหน่วยงาน เช่น พื้นที่ จำนวนบุคลากร เวลาในการปฏิบัติงาน เป็นต้น ดังนั้นจะสะท้อนถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้อย่างแท้จริงในแต่ละหน่วยงาน ซึ่งจะมีผลให้หน่วยงานราชการประหยัดพลังงานได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดร. คุรุจิต กล่าวเพิ่มว่า ในระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2550 กระทรวงพลังงาน จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Asian Energy Dialog (การสร้างความร่วมมือทางการค้าด้านพลังงานระหว่างกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันในเอเชียและชาติโอเปค) โดยในการจัดประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญของกระทรวงพลังงาน ที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อต่อประเทศกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงข้อตกลงด้านการค้าที่สำคัญ ๆ โดยมีตัวแทนจากชาติสมาชิกกลุ่มโอเปก และกลุ่มผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่จากชาติในเอเชีย อาทิ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เข้าร่วมประชุมด้วย