กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--ไทยออยล์
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาว (Strategic Planning) จนถึงปี 2020 เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยในแผนวิสาหกิจระยะยาวนี้ จะเป็นการวางแผนความเหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจของ ไทยออยล์ในด้านต่างๆ ว่าควรจะขยายการลงทุนในด้านใด ซึ่งเบื้องต้นแนวทางพิจารณาจะแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ ทางกว้าง หรือทางลึก
ซึ่งการขยายในทางกว้าง จะเป็นการพิจารณาขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก แต่ต้องเป็นการขยายกำลังการผลิตให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง โดยหากขยายแล้วต้นทุนไม่ต่ำลงก็จะมีการขยายไปในอีกแนวทางหนึ่ง คือ ทางลึก หรือการขยายการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องทั้งในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า และโรงกลั่นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
โดยในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ก็เป็นเรื่องที่กำลังพิจารณาอยู่ในแผน แม้ว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตัดสินใจในวันนี้ ยังเป็นแค่การศึกษาเรื่องการทำธุรกิจในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การจัดทำแผนวิสาหกิจระยะยาวของไทยออยล์ใหม่ เนื่องจากสถาการณ์ทางด้านต่างๆเปลี่ยนไป โดยเฉพาะสถานการณ์ต่างๆ ในปีนี้กับปีก่อนต่างกันมาก ดังนั้น จึงต้องมีการจัดทำแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเตรียมแผนรองรับในอนาคตด้วย
ซึ่งในปีนี้นับว่าเป็นปีที่ดีของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และการได้กำไรจากสต็อกน้ำมันที่ส่งผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นมาก แต่ไทยออยล์ก็เป็นห่วงในเรื่องของการบริหารจัดการการเก็บสต็อกน้ำมัน ประกอบกับต้องเพิ่มความสามารถในการผลิต ดังนั้น การจัดทำแผนธุรกิจต้องมีการศึกษาในเรื่องการทำโลจิสติกส์ เรื่องการพัฒนาพลังงานทดแทน และเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากสารเบนซีน
โดยคาดว่าแผนจะจัดทำได้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ และจะส่งแผนให้กับคณะกรรมการบริษัทพิจารณาได้ในเดือนตุลาคมปีนี้