กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--กทม.
กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ บำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์สถานีสูบน้ำกรุงเทพมหานครให้มีประสิทธิภาพ รองรับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร
ที่อาคารสำนักงานใหญ่ การไฟฟ้านครหลวง เพลินจิต นาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์สถานีสูบน้ำ รวมทั้งบ่อสูบน้ำกรุงเทพมหานครจำนวน 178 แห่ง โดยมีรศ.ดร.บรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายนิเวศน์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง(ธุรกิจ) ลงนามเป็นสักขีพยาน
โดยการไฟฟ้านครหลวง ( กฟน.) จะเป็นผู้รับผิดชอบตรวจสอบ ทดสอบ บำรุงรักษา และแก้ไขปัญหาในกรณีฉุกเฉินเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าแรงสูง หม้อแปลงไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญในสถานีสูบน้ำและบ่อสูบน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ขอบเขตการให้บริการ การไฟฟ้านครหลวง จะดำเนินการบำรุงรักษาสถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำภายในระยะเวลา 1 ปี โดยกำหนดบำรุงรักษา 3 ครั้ง / ปี / สถานที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจ่ายไฟฟ้าให้มีความมั่นคงสูง และสามารถรองรับการสูบน้ำของสถานีสูบน้ำ เพื่อทำการระบายน้ำออกในกรณีที่มีฝนตกหนัก หรือ น้ำท่วม ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า การป้องกันและแก้ไขและไขปัญหาน้ำท่วมเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งของกรุงเทพมหานคร สำหรับปีนี้กรุงเทพมหานครได้เตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยประสานงานการไฟฟ้านครหลวงในการตรวจสอบ บำรุงรักษาระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์สถานีสูบน้ำ ฯ นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เช่น หน่วยทหาร จังหวัดปริมณฑล สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมชลประทาน เป็นต้น เพื่อกำหนดแผนป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปี 50 อาทิ การขุดลอกคูคลอง ท่อระบายน้ำ
อย่างไรก็ดีการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน เช่น งดเว้นการทิ้งขยะ สิ่งของลงในคู คลอง ท่อระบายน้ำหรือพื้นถนน เพราะเป็นสาเหตุทำให้ขยะอุดตันทางระบายน้ำ สำหรับการป้องกันในระยะยาวนั้น กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีนี้ด้วย